Monday, June 02, 2008

เวลาชีวิตที่มักจะเดินไปเร็วกว่าปกติเสมอ

“โบว์เข้าห้องน้ำก็เร็วเนอะ”

เสียงพี่มามิพูดในขณะที่เรากำลังเดินออกจากห้องน้ำในร้านอาหารหลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จ

นั่นสิ ... เพิ่งจะสังเกตว่าเรามักจะเป็นคนที่ทำอะไรเร็วเสมอในเกือบทุกๆเรื่อง

เรื่องกินคนส่วนใหญ่ที่เคยร่วมโต๊ะกันคงรู้อยู่แล้ว กินเร็วจนผู้ชายกลัว
เคยไปนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับชายฉกรรจ์สี่คน หลังจากที่จัดการข้าวแกงกะหรี่หมดเป็นคนแรกของโต๊ะ ชายหนุ่มหนึ่งในสี่คนนั้นถามเราว่า “น้องโบว์หิวมากเลยเหรอ” เหอๆ

เรื่องกินเร็วนี่เหมือนจะรู้ตัวมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า สปีดการนำอาหารเข้ากะเพาะจะเร็วกว่าคนอื่นเสมอ จำได้ว่าประมาณเจ็ดแปดขวบนี่แหละ ไปทานข้าวกับที่บ้าน มีลุงป้าน้าอาไปด้วยเต็มไปหมด เราสั่งช็อคโกแลตซันเดย์ ระหว่างที่กำลังจะนำช้อนที่ตักไอติมเข้าปากเป็นคำแรกมีเสียงท้าทายจากพี่ชายเราว่า “ถ้ากินหมดถ้วยนี้ภายในเจ็ดนาทีให้สามร้อย” ...

ตอนนั้นก็คิดนะว่า ‘จะบ้าเหรอเจ็ดนาทีใครมันจะไปกินหมด’

ก็เลยค่อยๆละเลียดกินตามสปีดปกติไปเรื่อยๆ ไม่ทันไรพอหมดถ้วย พี่ชายเรายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู สรุปแล้วเราใช้เวลาเพียงสามนาทีกว่าๆเท่านั้นในการจัดการกับช็อคโกแลตซันเดย์ถ้วยใหญ่

ส่วนเงินสามร้อยนั้นถ้าจำไม่ผิด ... รู้สึกว่าจะไม่ได้นะ เหอๆ

เข้าห้องน้ำเร็วนี่ก็เคยทำผู้ชายอายมาแล้ว ... ออกมาก่อนผู้ชายที่เข้าไปพร้อมกัน เหอๆ ...
แต่เรื่องเข้าห้องน้ำเร็วนี่มีสาเหตุนะ ... จำได้ว่าสมัยอยู่เซนต์ฟรังฯ เวลาพักจะมีคนต่อแถวเข้าห้องน้ำเยอะมากๆๆๆๆๆๆ ... ตอนนั้นก็คิดนะว่าเราจะต้องรีบเข้าให้มันเร็วๆ คนข้างหลังจะได้ไม่ต้องรอนาน

อันนี้เรื่องจริงนะ .. หลังจากนั้นเลยติดนิสัยเข้าห้องน้ำเร็ว

มีอะไรอีกล่ะ ... ทำข้อสอบเร็ว มักจะออกจากห้องเป็นหนึ่งในสามคนแรกเสมอไม่ว่าจะวิชาอะไร
ตอนสอบเข้าเตรียมฯ เคยทำพ่อตกใจมาแล้ว พ่อโกรธเลยว่าทำไมมันไม่ตั้งใจออกจากห้องสอบมาเร็ว เหอๆ สอบเอ็นท์ก็ยังไม่เว้น ดิฉันทำข้อสอบเสร็จนั่งกินข้าวหมดไปหนึ่งจานพร้อมขนมอีกหนึ่งถ้วยเพิ่งจะหมดเวลาสอบ

พูดเร็ว ... อันนี้ขอโยงกับการคิดเร็วละกัน เหมือนคิดอะไรได้เร็วอ่ะ กลัวจะพูดไม่ทันเลยรีบๆพูด เดี๋ยวลืม 5555+ (คิดยังงั้นจริงๆนะ -_-") โดนแม่ด่าเสมอเพราะมันเสียบุคลิก จะรีบพูดไปไหน เหอๆ

พิมพ์เร็ว ... เวลาทำรายงานมักได้รับหน้าที่ให้เป็นคนพิมพ์เสมอ เพราะมันพิมพ์เร็วมากกกกกก
เลยโง่มาจนถึงทุกวันนี้ งานใช้สมองไม่เคยใช้ ใช้แรงงาน (นิ้วอย่างเดียว) อันนี้พิมพ์เร็วเนื่องจาก
เล่น ICQ ตั้งแต่เด็กๆ ... แช็ทเยอะ คิดเร็วไง เลยต้องพิมพ์เร็วไปด้วย เดี๋ยวมันไม่ทันสิ่งที่อยากพูด ฮ่าๆๆๆ
แต่สังเกตได้ว่าพิมพ์ผิดบ่อยและเยอะมาก แบบว่าเ็ร็วเิกิน เหอๆ

เดินเร็ว ... อันนี้ขอบอกว่าสูสีคนญี่ปุ่น ใครว่าคนญี่ปุ่นเดินเร็วเหมือนตามควายขนาดไหน ดิฉันเดินแซงเสมอ ... เวลาไปเดินกะผู้ชายสองคน (เอาผู้ชายมาเปรียบเสมอ เหอๆ) คนที่เดินไปด้วยมักจะตกใจ เพราะปกติผู้ชายจะก้าวยาวกว่าแล้วเดินเร็วโดยไม่รู้ตัวมักจะโดนผู้หญิงที่ไปด้วยด่าเสมอ แต่กรณีนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับดิฉัน เพราะดิฉันไม่เคยเดินตามไม่ทัน เหอๆ

ทำรายงานเร็ว ... คือชอบทำไรให้มันเสร็จเร็วๆอ่ะ ไม่ชอบกังวลหลายวันก็มักจะกำหนดไว้เลย เหมือนวางแผนไว้แหละว่าวันนี้ถึงวันนี้ชั้นจะทำวิชานี้นะ ต่อมาชั้นจะทำวิชานี้นะ แล้วก็จะเสร็จเร็วก่อนกำหนด

เคยมีี่พี่คนนึงบอกว่าน้องโบว์เป็นคนที่มีพลังเยอะเสมอ ที่ดูมีพลังเยอะเสมอนี่เพราะเราเป็นคนที่ทำอะไรแล้วดูรีบร้อนหรือเปล่านะ
พอรีบร้อนเลยเหมือนพลังเยอะ ไฮเปอร์ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

แต่บางที่การทำอะไรเร็วๆเสมอของเราก็เป็นข้อเสียเหมือนกันนะ

ทำอะไรเร็วนี่ ... อาจะเรียกได้ว่าใจร้อนหรือเปล่านะ
อะไรไม่ทันใจเนี่ยจะหงุดหงิดสุดๆ แบบอยากรู้ไรต้องรีบๆรู้ ไม่อยากเก็บไปคิดหลายวัน

แบบเมื่อก่อนตอนทะเลาะกับแฟน มันจะต้องให้ได้คำตอบเดี๋ยวนั้นเลย ใจร้อน .. แล้วไอ้การรีบคะยั้นคะยอคำตอบเนี่ย มันมักจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ แล้วมักจบท้ายด้วยความวิบัติ เหอะๆ

มานั่งคิดๆดูนะ ... ทำไมตูจะรออีกหน่อยนึงให้มันหายอารมณ์เสีย หรือหายโกรธก่อนแล้วค่อยมาคุยกันไม่ได้หรือไงว้าาาาา ก็รู้ทั้งรู้อะไรที่มันมีอารมณ์มาเจือปนเนี่ย มันมักจะเปิดโอกาสให้เจ้า “อารมณ์” เนี่ยวิ่งมาบังนางเอกที่ชื่อว่า “เหตุผล” เสมอ

เคยบอกตัวเองหลายครั้งนะว่าเลิกได้แล้วไอ้นิสัยคะยั้นคะยอคำตอบเนี่ย เพราะจริงๆแล้วมันไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นหรอก
บางอย่างมันก็ต้องช้าๆอ่ะนะ ... พี่ป็อปเคยส่งเพลง "หยดน้ำ" ของพี่เบิร์ดมาให้ฟัง
มันก็จริงเน๊อะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ... แต่ไม่รู้ทำไม ขจีภรณ์บอกตัวเองยังไงก็ไม่เคยทำได้สักทีโดยเฉพาะเมื่อเวลาที่มีอารมณ์มาบังคับจิตใจ


*********************************************


พยายามปลอบตัวเองว่าที่ตัวเองเป็นแบบนี้ก็เพราะเวลาชีิวิตของเราเดินไปเร็วกว่าคนอื่นเสมอ
แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วมันก็ไม่ใช่หรอก ... เพราะเวลาของคนทุกคนนั้นเดินไปพร้อมๆกัน

และถึงแม้เวลาจะไม่สามารถย้อนกลับมาได้ เวลาในอนาคตที่กำลังจะมาถึงเราก็จะสามารถควบคุมมันได้เสมอ
เพื่อที่จะไม่ให้มันเดินเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป

เพียงแค่เรารู้ตัวเองเสมอในการกระทำ ... เท่านั้นก็น่าจะพอ

เฮ้อ ... ต่อไปจะค่อยๆคิดแล้วค่ะ

3 comments:

Anonymous said...

เฮ้ย นก น้องแกทวงเงิน สามร้อยแน่ะ

Anonymous said...

เลี้ยงมดดูมั๊ย ดูมันค่อยๆ ทำรัง เหอๆ

Huineken said...

จังหวะชีวิตก็เหมือนจังหวะดนตรีในบทเพลง บางเพลงก็เร็ว บางเพลงก็ช้า ความช้าเร็วไม่ได้บ่งบอกถึงความเพราะของเพลง เพลงที่จังหวะเร็วๆ มิได้หมายความว่าจะบรรเลงจบก่อนเพลงช้า ที่แน่ๆ ทุกคนที่กำลังดำเนินชีวิตอยู่ไม่มีใครเลยที่รู้ว่า บทเพลงชีวิตที่ตนกำลังบรรเลง จะจบแบบไหน และมีความยาวเท่าไร