Wednesday, May 12, 2010

อะไรสำคัญกว่ากัน?

เนื่องจากได้เริ่มทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งเป็นการทำงานประจำครั้งแรกของโบว์ ตอนนี้ก็กำลังจะเข้าเดือนที่ 7 แล้ว
หน้าที่ที่ได้รับของบัณฑิตจบใหม่รัฐศาสตร์ทั่วไป ก็คือฝ่ายบุุคคล หรือเรียกให้หรูๆก็คือ HR นั่นเอง

ก่อนจะเข้ามาทำงาน..ขอสารภาพว่าไม่รู้เลยว่า HR เค้าทำอะไรกันบ้าง
รู้แต่ว่างาน recruit หรือสรรหาคนเข้ามาทำงานนี่เป็นงานหลักงานหนึ่งของ HR

แต่พอมาทำงานที่นี่ได้มาหลายเดือน...ก็เริ่มสงสัยว่า นี่มันเป็นงานเดียวของ HR หรือเปล่า -"-

เพราะว่าตอนนี้ทำอยู่อย่างเดียว เช้ามาก็เช็คเมลที่มีคนส่งมาสมัครงาน...นั่งเช็คไป ส่งไปให้บริษัทต่างๆในกรุ๊ปก็ปาไปเกือบครึ่งวันแล้ว
Photobucket

แล้วนายญี่ปุ่นเวลาเรียกทีไรก็ถามทุกครั้ง ว่า ทำไมคนสมัครน้อย ทำไมบริษัทนั้นหาคนไม่ไ้ด้สักที ทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนสมัคร ฯลฯ

เจออย่างนี้ทุกวันๆ จนเกิดความสงสัยว่า...
อะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่าง "การทำยอดให้มีคนมาสมัครเยอะๆ" กับ "การทำให้พนักงานเก่าไม่ลาออก"

ตอนนี้ทำไมเราต้องนั่งอ่านเรซูเม่ของคนเป็นร้อยเป็นพันคน อ่านๆ จนผู้คนที่ได้ปฏิสัมพันธ์ด้วยคือคนสองมิติเท่านั้น
ทำไมล่ะ...ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคนที่เคยทำงานอยู่เก่าเค้าลาออกไป แล้วเลยต้องหาคนใหม่

สำหรับโบว์ งาน HR ที่สำคัญงานหนึ่งคือการสร้างความคิด และใจรักในองค์กรให้เกิดขึ้น รวมถึงการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี ความเข้าอกเข้าใจกันระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง การทำให้บุคลากรของเราอยากอยู่กับเราไปนานๆ ไม่อยากลาออกมากกว่า การทำยอดให้มีคนสมัครเยอะๆ (หัวหน้าโบว์ตั้งยอดไว้ว่าโบว์ต้องทำให้มีคนมาสมัครงานให้มากกว่า 50 คนให้ได้)

แล้วทำยังไงล่ะให้มีคนมาสมัครเยอะๆ ก็เปิดตำแหน่งงานให้มันมากขึ้นให้หลากหลายสาขาเข้าไปคนก็มาสมัครเองแหละ

แล้วการทำยอดให้คนมาสมัครเยอะๆมันจะมีความหมายอะไร ถ้าเรามัวแต่คอยหาคนให้มาสมัครอย่างไม่มีสิ้นสุดจนไม่ได้สนใจว่าคนที่ทำงานอยู่กับเรานั้นเค้ามีความสุขกับการทำงาน แล้ววันหนึ่งเขาก็ลาออก

คิดว่าเสียเวลากว่าหรือเปล่าที่จะต้องเสียแรงงานคนนึงมานั่งอ่านเรซูเม่ทั้งวัน ต้องจัดสัมภาษณ์งานไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ พอมาเริ่มงานก็ต้องมาสอนงานกันใหม่แต่ต้น แล้วก็ลาออก แล้วก็ต้องมาเริ่มใหม่

ไม่เถียงว่างาน recruit นั้นเป็นงานสำคัญงานหนึ่งในองค์กร แต่โบว์ว่าหัวหน้าโบว์เมื่อเค้าหมกมุ่นกับการทำยอดให้มีผู้สมัครเยอะๆนั้น เค้าก็มองข้ามสิ่งที่สำคัญกว่าบางสิ่งไป...

แล้วคุณล่ะ..คิดว่ายังไงคะ?

No comments: