สวัสดีปีใหม่ จากโตเกียว

ขออภัยทุกท่านที่หายหน้าไปหลายวัน
จริงๆแล้งตั้งใจจะมาอัพตั้งแต่วันที่สองแล้ว แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น... นั่นคือ เน็ทโดนตัด!!!!!!
จริงๆแล้วมันเป็นเพราะความโง่ของเราเอง ที่เค้าส่ง จม.มาว่าจะให้เก็บตังค์ยังไง แล้วไม่สนใจมัน เหอๆๆ สรุปแล้วคือมันตัดเงินไม่ได้เลยโดนตัดไปตามระเบียบ ... ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 1 มค.เป็นต้นมา ซวยกันรับปีใหม่เลยทีเดียวววว

แต่ตอนนี้มีเน็ทใช้แล้ว เมื่อเช้าโทรไปที่บริษัทเน็ทมา แล้วขอกบอกว่้าดีใจมากที่คุยกับเค้ารู้เรืิ่อง
ไม่เคยคิดเลยว่าจะสามารถทำไรได้เองแล้วตอนนี้ ดีใจๆๆๆๆ

ความวัวยังหายไม่ทันดี ความควายเข้ามาแทรกอีัก คือเมื่อเช้านี้จู่ๆเครื่องทำน้ำร้อนก็พัง
ขจีภรณ์อาบน้ำเย็นค่าาาา เหมือนฝึกความอดทนในฤดูหนาว เหอๆๆๆๆ
ตอนนี้รอเค้ามาจัดการให้อยู่ เหอๆ

อ่อ ... ไม่ลืมที่จะมาอัพเรื่องราวต่างๆให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันนะคะ ถึงจะเลยวันปีใหม่มาหลายวันแล้ว แต่ยังไงก็ต้องขอมาเล่าเรื่องปีใหม่ให้ฟังดีกว่า

เมืองไทยไปเค้าท์ดาวน์ที่ไหนกันปีนี้ไม่รู้ไม่ได้ติดตาม แต่ที่ญี่ปุ่นเดี๊ยนไปเค้าท์ดาวน์ที่วัดมาค่ะะะะ
สถานที่คือศาลเจ้าเมจิที่ฮาราจูกุ


อ่อ.. นอกจากคนที่ไปวัดกันแล้ว คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็นั่งๆนอนๆดูทีวีเฉยๆกันที่บ้าน โดยช่อง NHK จะมีรายการพิเศษในคืนวันปีใหม่ทุกปี ... ขอบคุณวิทยาการอันก้าวไกลทำให้เราสามารถดูรายการพิเศษผ่านมือถือได้ เหอๆๆๆ


จำนวนคนมหาศาลบานตะไท แย่งกันไปเพื่อให้ได้อยู่แถวหน้าสุดกันเลยทีเดียว เราโชคดีมากไปตั้งแต่สี่ทุ่มเลยได้อยู่โซนหน้าสุด แต่ก็ต้องแลกกับการยืนหนาวสุดขั้วท่ามกลางอากาศที่หนาวสุดๆคือ 1 องศา ในคืนนั้นอยู่สองชั่วโมง ตอนแรกกะว่าจะรีบไปรีบกลับ แต่ไหนๆก็ไปแล้วก็เลยขออยู่ถึงจบเลยดีกว่า


มีช่างภาพสื่อมวลชนมาเก็บภาพเหตุการณ์สำคัญของปี


เลยขอเก็บมั่ง อิอิ


ตำรวจต้องใส่หน้ากากกันโดนเหรียญทำบุญที่ประชาชนจะโยนไปที่ศาลเจ้ามาโดนหน้า


สุดท้ายมีวีดีโอตอนที่เค้าท์ดาวน์มาฝากกัน ...


ภาพสมาชิกร่วมเผชิญความหนาวในค่ำคืนนั้น

พี่แก็ป (ส่งตรงมาจากชิโกกุ) พี่บี (ส่งตรงมาจากเกียวโต) และดิชั้นเอง

**********************************

เหตุการณ์สำคัญมิได้จบแต่เพียบเท่านั้น เนื่องจากที่ญี่ปุ่นนี่ตอนช่วงปีใหม่จะมีการลดราคาอย่างกระหน่ำกันเลยทีเดียว อีกอย่างหนึ่งที่คนญี่ปุ่นตั้งใจจะไปซื้อในวันปีใหม่คือ “ถุงโชคดี”

ถุงโชคดีที่ว่าก็คือ แต่ละแบรนด์ต่างๆจะทำถุงออกมาข้างในจะใส่สินค้าอะไรมั่งก็ไม่รู้ เพียงแค่คุณจ่ายเงินไปในราคาที่เค้ากำหนดไว้เช่น ห้าพันเยน หมื่นเยน หรือสามหมื่นเยน คุณก็จะได้สินค้าข้างในมาลุ้นว่าจะได้อะไร ... ซึงของข้างในถุงนั้นคุ้มชัวร์ๆ เมื่อสองปีที่แล้วซื้อถุง Bennetton มาในราคาหมื่นเยน ของในถุงราคาประมาณเจ็ดหมื่นกว่าเยน!!! ทั้งนี้และทั้งนั้นมันจะถูกใจหรือเปล่าก็แล้วแต่ดวงจริงๆเน้อ

ซึ่งร้านที่มันจะฮิตๆมันก็จะทำถุงมาจำนวนหนึ่ง คนก็ต้องไปแก่งแย่งกันสุดชีวิตเพื่อจะได้ถุงจากร้านนั้นมา เช้าวันนั้นเรานัดกับสาวๆอีกสามคน และหนุ่มอีกหนึ่งคนออกไปต่อแถวเพื่อรอห้างเปิดกันตั้งแต่แปดโมงครึ่ง

ไปถึงหน้าห้าง Isetan ที่ Shinjuku ก็ต้องตกใจในจำนวนคนที่ไปต่อแถวรอ...

ห้างมันเปิดสิบโมง นี่ไปต่อกันเหมือนจะแจกฟรีกันเลยนะนี่ ... ขอบอกว่านี่แค่ส่วนหนึ่งนะ ของจริงมันมีคนอออยู่ทุกประตูของห้าง รวมถึงตรงชั้นใต้ดินอีก ... โอ้ววววว

โฉมหน้าสาวๆผู้เข้าร่วมสมรภูมิในครั้งนั้น

พี่ส้ม จอย พี่แจน และเราเอง

หลังจากห้างเปิด คนก็กรูเข้าไปสิคะคุณผู้อ่าน คลื่นมหาชนนับพันวิ่งกันหน้าตั้งเพื่อไปยังบู๊ทสินค้าที่ตัวเองต้องการกันอย่างบ้าคลั่งงงง ไอ้เราก็บ้าจี้วิ่งกับเค้าไปด้วย สรุปแล้วสมาชิกก็ได้ถุงโชคดีกลับมากันคนละถุงสองถุง


ส่วนเราได้มาสองถุง ถุงแรกคือ Samantha Thevasa ราคาหนึ่งหมื่นเยน


ถุงที่สองคือ Anna Sui ราคาหนึ่งหมื่นเยน... ถุงนี้ขอยกความดีความชอบให้พี่แก็ปเลยจริงๆ ไม่รู้ไปได้มาได้ยังไง ขอบคุณนะค๊าาาาาา


ขอเปิดเผยราคากระเป๋าสีขาวของ Anna Sui ... มัแปะราคาเว่อร์ไปเปล่าว้าาาา


**********************************

จบแล้วสำหรับกิจกรรมแบบคนญี่ปุ๊นญี่ปุ่นในช่วงวันปีใหม่ ... เดี๋ยวคราวหน้าจะเอาเรื่องทริปสกีที่เพิ่งไปมามาเล่าให้ฟัง

สวัสดีปีใหม่ทุกคนค่ะ ขอให้มีความสุขนะคะ
(รูป)