Monday, December 04, 2006

ไอ้โรคจิตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต

วันนี้ขอมาเล่าเรื่องโดยไร้ภาพประกอบใดๆทั้งสิ้น
แต่ขอให้คุณผู้อ่านได้ใช้จินตนาการประกอบไปกับการบรรยายของเราไปด้วย

จินตนาการไปด้วบนะ อย่าลืมมมมม หุหุหุ

ตอนแรกตั้งใจว่าเรื่องต่อไปที่จะมาอัพวันนี้คือเรื่องที่ไป
สอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นมา แต่พอดีว่าวันนี้ดันมีเหตุการณ์ระทึกขวัญเข้ามาแทรกซะก่อน เลยต้องรีบเอามาเล่าให้ฟัง เดี๋ยวจะลืมความรู้สึกนั้นๆ เหอๆๆ

ใครที่ไม่ได้อ่านหัวข้อบล็อควันนี้ กรุณาเลื่อนหน้าจอขึ้นไปมองที่หัวข้ออีกที...

ใช่แล้วค่ะ.. วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง
"ไอ้โรคจิต" กันค่ะ

วันนี้ขณะที่กำลังเรียนวิชา
Global Film ซึ่งจริงๆแล้วเป็นวิชาดูหนังค่ะ
ต้นคาบเราจะดูหนังก่อนทุกสัปดาห์ ซึ่งใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมงเราจะมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังที่ได้ดูไปนั้น ในบริบทของเรื่องที่เราจะเรียนกันในแต่ละปี

ซึ่งปีนี้เรื่องที่เราเน้นหนัก และซึ่งเป็นแนวมากๆของอ.สรวิศก็คือเรื่อง
Gender Study ค่ะ

วันนี้หนังที่เราดูกันในห้องคือหนังสัญชาติฝรั่งเศสเรื่อง"The Piano Teacher"

พอดูหนังเสร็จ ก็มีพักเล็กน้อยแล้วก็กลับมาในห้องเรียนเพื่อวิเคราะห์หนังเรื่องนี้ว่ามีประเด็นเกี่ยวกับเพศสภาพอย่างไรบ้าง

ระหว่างที่กำลังวิเคราะห์อยู่นั้น (กำลังเข้าเรื่อง..ตั้งใจอ่านกันหน่อยยยย)
ก็เห็นเงาตะครุ่มๆอยู่ที่ประตูหน้าห้องเรียน

ห้องเรียนที่เราเรียนอยู่นั้นอยู่ที่ตึกหนึ่งของคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นตึกเก่าแก่ ประตูของห้องเรียนก็เป็นประตูแบบเก่า เปิดทีนึงก็จะมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดเป็นซาวด์เอฟเฟ็คเป็นประจำ ประตูที่ว่านั้นเป็นประตูแบบสองบาน จะเปิดต้องผลักตรงกลางออกจากกัน ขอบประตูเป็นไม้และมีกระจกสีขุ่นเป็นตัวประตู

ตอนแรกก็เห็นแล้วว่าเงาที่อยู่หน้าห้องนั้นส่องผ่านตรงช่องว่างระหว่างกลอนประตูตรงกลางเข้ามาดูภายในห้อง แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะลักษณะการแต่งตัวของคนๆนั้นออกแนวฮิบฮอบ ซึ่งเหมือนกับรุ่นน้องคนนึงที่จริงๆแล้วก็เรียนวิชานี้เหมือนกัน แต่วันนี้แกดันไม่มา

เราก็สงสัยนิดหน่อยว่าน้องคนนั้นจะมายืนทำลับๆล่อๆอยู่หน้าห้องทำไม ทำไมไม่เข้าห้องเรียน แล้วก็หันหน้ากลับไปสนใจอาจารย์ที่กำลังบรรยายอยู่

ผ่านไปไม่กี่นาทีก็มีเสียงน้องคนนึงที่นั่งหน้าห้องร้องขึ้นมาว่า
(ออกจะเป็นแนวอีโรไปซะหน่อย.. แต่ทุกเรื่องที่ดูมามันก็แบบนี้แหละ เห็นทุกส่วนสัดจนชินชาไปเสียแล้ว เหอๆๆๆ)
"อาจารย์คะ ผู้ชายที่อยู่หน้าห้อง เค้า.. เค้า.. เค้าทำท่าเหมือนกำลัง masterbate อยู่ค่ะ"

(ใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษเพราะว่าพวกเรามักจะอ่าน text เกี่ยวกับเรื่อง gender study เป็นภาษาอังกฤษเสมอ เลยกลายเป็นคำติดปากไปก่อนที่คำศัพท์คำอื่นจะโผล่ขึ้นมา)

เราซึ่งมองไปที่หน้าห้องพอดีก็กำลังเห็นชายคนนั้นกำลังทำท่าเหมือนกำลังประกิบกิจกรรมดังกล่าวอยู่กับประตูห้องเรียนของเรา

เมื่อชายคนนั้นได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งหนีไป

ห้องเรียนที่ตอนก่อนหน้านี้ฉายหนังทำให้ต้องปิดหน้าต่างไม้ให้หมดเพื่อแสงจะได้ไม่เข้ามารบกวนเวลาดูทีวี
ก็ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าโฉมหน้าของชายคนดังกล่าวนั้นเป็นใคร

ระหว่งที่กำลังชุลมุนชุลเกกันอยู่ ประกอบกับเพื่อนผู้ชายคนนึงของเราก็วิ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว
เราก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อตอนเที่ยงๆเห็นผู้ชายคนนึงแต่งตัวลักษณะแบบนี้แหละ เป็นที่สะดุดตาพอสมควรนะเพราะไม่มีใครแต่งแบบนี้ให้เราเห็นบ่อยๆนอกจากรุ่นน้องที่เราได้บอกไป แต่เราก็จำหน้าเค้าไม่ได้หรอกนะ คือแค่เห็นหน้าว่าไม่ใช่น้องคนนั้นก็สงสัยนิดๆว่ายังมีคนแต่งตัวสไตล์นี้อยู่อีกหรือวะ แล้วก็ไม่ได้สนใจ

เพื่อนเราที่วิ่งตามออกไปก็ไม่สามารถหาตัวเค้าเจอได้ คาดว่าอาจจะวิ่งหนีออกไปนอกมหา'ลัยแล้ว (นี่คงเป็นข้อเสียข้อหนึ่งของคณะที่อยู่ติดถนน ใครเข้าออกก็มักจะมาเป็นคณะแรกนี่แหละ)

ทำให้สรุปแล้วก็ไม่รู้ว่าชายแปลกหน้าคนนั้นเป็นใคร

รู้แต่เพียงว่าเค้าคือ
"ไอ้โรคจิตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต" นั่นเอง



3 comments:

Anonymous said...

อยากเรียนมั่ง 55

Oakyman said...

จงใจเล็งสาวรัดสาดหละมั้งเนี่ย

Anonymous said...

เย้ยยยย น่ากลัวง่ะ

แถวรั้วอังรีก็มีเยอะอยู่แล้วอ่ะ...แบบมายืนฉี่ไรงี้...