เชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีความรู้สึกเกี่ยวกับสนามบินที่แตกต่างกันไป
โบว์เป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการสนามบินค่อยข้างบ่อย และมีความผูกพันธ์กับสนามบินมากพอสมควร อาจจะเป็นเพราะปะป๊าเป็นคนที่เดินทางบ่อยมาก ทำให้ตั้งแต่เด็กๆโบว์จะมารับ มาส่ง มาเดินเล่นที่สนามบินอยู่เป็นประจำ ทำให้ได้สังเกตุอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในสนามบินมาแล้วเป็นเวลานาน
ถ้าใครได้ดู Love Actually คงจะจำเนื้อเรื่องส่วนหนึ่งโดยเฉพาะตอนจบของเรื่องนี้ได้ว่า สนามบินนั้นเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความรัก ความสุขของคนที่ได้กลับบ้าน ความคิดถึงของคนที่มารอรับ มันช่างเป็นสถานที่ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความสุข
แต่สำหรับโบว์แล้ว สนามบินเป็นอะไรที่มากกว่านั้น ...
ช่วงหลายปีที่ผ่านมาโบว์มีโมเม้นต์ของการเดินทางคนเดียวบ่อยมาก ... บ่อยจนเริ่มรู้สึกแล้วว่าการเดินทางคนเดียวนี่มันช่างคล่องตัวอะไรอย่างนี้ จะเดินไปไหน จะเช็คอิน จะผ่าน ต.ม. เดินซื้อของ ฯลฯ ก็เป็นไปได้โดยอัตโนมัติ เหมือนแทบจะหลับตาเดินแล้วสเต็ป 1-2-3-4 ไปได้เลยโดยไม่ต้องมีคุณพ่อคุณแม่มาลากให้ไปตรงนั้นตรงนี้เหมือนตอนเด็กๆ
นอกจากความคล่องตัวแล้ว สิ่งหนึ่งที่ได้ทำคือการนั่งสังเกตและพิจารณาพฤติกรรมของคนที่สนามบิน
สนามบินอาจจะไม่ใช่แค่ที่ที่ดูผิดที่ผิดทางเพราะมีคนแต่งตัวแตกต่างกันอย่างสุดขั้วมารวมอยู่ด้วยกันในที่เดียว เช่น คุณอาจจะเห็นคนใส่กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะยืนต่อแถวแลกเงินแถวเดียวกับคนที่ใส่รองเท้าบู้ทหนังสูงและพาดเสื้อโค้ทไว้ที่แขน หรือสถานที่ที่อบอวลไปด้วยความรักเสมอไป แต่มันยังแอบซ่อนไปด้วยความเศร้าและความเหงาไปพร้อมๆกัน ซึ่งในหลายๆครั้งโบว์ก็เป็นเช่นนั้น
หลายครั้งที่เดินทางคนเดียว โดยเฉพาะในช่วงที่ต่างประเทศใกล้จะเปิดเทอมจะเห็นเด็กวัยรุ่นตาแดงๆนั่งกอดกระเป๋ารออยู่ที่ Gate คนเดียวอยู่เสมอ น้องคนนั้นอาจจะต้องกำลังจากบ้าน จากคนที่รักไปเรียนในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อนในชีวิตคนเดียว .... ซึ่งสิ่งนั้นก็เคยเกิดขึ้นกับโบว์ในช่วงอายุใกล้ๆกันแบบนั้นมาก่อนเช่นกัน
แต่เชื่อเถอะว่า การเดินทางคนเดียว (ซึ่งอาจจะเป็นครั้งแรก) ของน้องคนนั้น จะไม่ใช่การเดินทางคนเดียวครั้งเดียวของเค้าแน่นอน ยิ่งถ้าเค้าเป็นคนที่เดินทางบ่อยแบบโบว์ด้วยแล้ว ... เพราะในอนาคตเราไม่สามารถกำหนดได้หรอกว่าการเดินทางของเรานั้นจะมีคนเดินร่วมทางไปด้วยหรือเปล่า ถ้ามีก็ดีเพราะคงไม่เหงา แต่ถ้าไม่มีก็คงจะดีกว่าถ้าเราจะสามารถทำใจล่วงหน้าเอาไว้ก่อน เพราะจริงๆแล้วการเดินทางคนเดียวคงจะเหงาแค่เฉพาะตอนเดินทางเท่านั้น แต่เมื่อถึงจุดหมายแล้วมันจะยังมีเรื่องราวอีกเยอะที่เราต้องเจอ และอาจจะลืมหรือไม่มีเวลานึกถึงความเหงาเพียงชั่วขณะนั้นไปเลยก็ได้
วันนี้โบว์ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินเพื่อเดินทางมาเชียงใหม่คนเดียว นอกจากความคล่องตัวแล้วก็ยังแอบรู้สึกเหงานิดๆไม่ได้ แต่พอคิดถึงว่าปลายทางนั้นมีคนที่รออยู่แล้ว ความเหงาชั่วแป๊บๆก็ดูเหมือนจะไม่สำคัญอะไร
หากเปรียบชีวิตคือการเดินทางแล้ว สนามบินอาจจะเป็นเพียงจุดพักผ่อนหย่อนใจให้คุณเดินเล่น ซื้อของดิวตี้ฟรี กินขนมของว่างก่อนรอขึ้นเครื่อง แต่ก็เป็นแต่การพักผ่อนแค่ชั่วคราว เพราะถ้าผ่านเข้าจุด check-in แล้วคงยากที่จะหันหลังกลับและไม่เดินทางต่อ
แต่อย่าลืมว่าจุดหมายปลายทางนั้นโดยมากแล้วคุณจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะไปที่นั่น หรือไม่ไป
สวัสดีปีใหม่ทุกคนค่ะ ขอให้ปีนี้เป็นการเดินทางที่ราบรื่นและไม่ตกหลุมอากาศนะคะ :)
No comments:
Post a Comment