"ให้คิดว่าเค้าไปเที่ยวต่างประเทศนานๆก็แล้วกัน"
เป็นประโยคหนึ่งที่คุณพ่อพูดกับโบว์ไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อนในวันที่โบว์ได้สูญเสียเพื่อนสนิทคนหนึ่งไปอย่างไม่มีวันกลับ
ในชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อ่อนวัยเกินไปกว่าที่จะยอมรับกับการสูญเสียได้ เมื่อการสูญเสียเดินทางมาถึงประตูหน้าบ้านสิ่งนั้นก็ยากเกินกว่าที่จะยอมรับและทำใจ
ในสมัยสิบกว่าปีก่อนถ้าคิดว่า "เค้าไปเที่ยวต่างประเทศนานๆ" ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ทำใจได้ง่ายขึ้น แต่ถามว่าถ้าวันนี้เราคิดว่าเค้าไปเที่ยวต่างประเทศนานๆแล้วเราจะยังคงทำใจได้ไหม???
ในยุคที่การสื่อสารรวดเร็ว (มาก) อย่างทุกๆวันนี้ คุณเคยคิดหรือเปล่าคะว่าหากเราต้องการที่จะบอกลาคนคนหนึ่งอย่างตั้ังใจเราจะสามารถทำได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่า..
โบว์รู้สึกว่าโบว์เป็นคนโชคดีที่สมัย ม.ต้น
โบว์มีโอกาสไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ
ความผูกพันธ์แบบเด็กๆในตอนนั้นทำให้วันที่โบว์กับเพื่อนๆที่ต้องแยกย้ายกลับ
ประเทศไปต้องเสียน้ำตา
พร้อมกับโบกมือลากันไปด้วยความรู้สึกที่ว่าเราคงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วใน
ชีวิตนี้ ....
แต่พอการสื่อสารเป็นไปได้อย่าง่ายขึ้น ความรู้สึกแบบนั้นกลับหายไปโดยที่เราไม่รู้ตัว....
ในช่วงจังหวะหนึ่งของชีวิตโบว์ จะมีช่วงหนึ่งที่เพื่อนฝูงที่สนิทชิดเชื้อกันเริ่มจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือแม้แต่ตอนที่โบว์ไปเรียนต่างประเทศเองในวันที่ต้องบอกลาเพื่อนๆที่ต้องแยกย้ายกลับประเทศของตัวเองกัน ... น่าแปลกไหมที่ความใจหายที่ว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกนาน หรือเราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยนั้นมันเริ่มหายไปทีละนิด เพราะเรารู้สึกว่าวันนี้เราโบกมือลากันที่สนามบิน พรุ่งนี้เราจะโบกมือสวัสดีกันผ่านทาง skype, facetime, facebook ฯลฯ
ในทางกลับกัน หากวันหนึ่งเราต้องการที่จะลืมใครบอกคน สิ่งนั้นกลับทำได้ยากขึ้นทุกที...
เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา โบว์สูญเสียรุ่้นน้องคนหนึ่งไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งโบว์ไม่สามารถทำใจคิดว่าเค้าเดินทางไปต่างประเทศนานๆเหมือนที่โบว์เคยทำตอนเด็กๆได้อีกแล้ว ... เพราะวันที่รู้ข่าวว่าน้องจากไป ใน facebook contact list ของโบว์ก็ยังมีน้องคนนั้นอยู่ และจนถึงตอนนี้ถึงแม้ว่าน้องคนนั้นคงไม่สามารถที่จะตอบกลับข้อความ happy birthday ของเราได้เหมือนเดิมทุกๆปีอีกแล้ว โบว์ก็ยังไม่สามารถลบน้องคนนั้นออกจาก contact list ได้
เทคโนโลยีทำให้เี่รารู้สึกว่าคนที่จากไปยังอยู่ใกล้ๆตัวเราเสมอ ทุกครั้งที่เรานึกถึงเขาเราก็ยังสามารถเข้าไปใน page ของเขาและอ่านเรื่องราวที่เราเคยคุยกัน รูปภาพที่เราเคยถ่ายด้วยกันได้ตลอดเวลา
แต่ทว่า....มันกลับทำให้การทำใจยอมรับความจริงของเรามันยากขึ้นกว่าในอดีต และทำให้การจากลาที่เป็นความจริงในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกทีๆ
No comments:
Post a Comment