Wednesday, December 24, 2008

Japanese Christmas

วันนี้ไปตัดผมมา...
(แต่ไม่ได้จะเอาทรงผมมาอวด 555+)

คนที่ตัดผมให้ถามว่า...วันนี้คริสต์มาสอีฟไม่ไปไหนเหรอคะ
อืม...จะให้ไปไหนล่ะ ก็บอกว่าเปล่าค่ะ

เค้าก็ถามต่อว่า...แล้วที่เมืองไทยวันคริสต์มาสทำอะไรคะ
ก็บอก...เออ ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ

คนตัดผมให้ตกใจ...แล้วก็ถามอีกครั้งว่าไม่ทำอะไรเลยจริงๆเหรอ

พอถึงจุดนี้เลยคิดได้ว่า...
อืม แล้วคนญี่ปุ้นเค้าทำอะไรกันล่ะ

อยู่ญี่ปุ่นมาคริสต์มาสที่สาม ก็พอจะจับได้ว่า
1. ไปเที่ยวกับแฟน (เคยมีสถิติสำรวจว่าวันคริสต์มาสอีฟห้องตามโรงแรมต่างๆหายากมากกกกกกก...เหอๆ)
2. อยู่กับครอบครัว กินไก่...และกินเค้ก -"-

สงสัยมานานแล้ว...ทำไมต้องไก่ และ เ้ค้ก?

ประเทศอื่นเป็นไงมั่งอ่ะคะ
ประเทศนี้เค้าเป็นงี้แหละค่ะ 5555+

ตามที่ต่างๆจะเห็นร้านขายเค้กขายดีเป็นล่ำเป้นสัน
Photobucket

KFC วันนี้ขายดีเป็นพิเศษ...คนต่อแถวยาวเฟื้อยยยยย
ปีนึงจะเป็นอย่างนี้สักที
Photobucket

นอกจากนี้...
แถวบ้านเรายังมีมุมเล็กๆให้แขวนคำขอพรจากซานต้าแล้วให้คนมาเขียนกันด้วย
คนเขียนเยอะมากกกกกก
Photobucket

ซานต้าจะเห็นคำขอของเราไหมนะ ^^
Photobucket

Merry Christmas ค่ะ ^^

Saturday, December 20, 2008

Tuesday, December 09, 2008

Super Dog!

ไปอ่านพันทิปมา เจอคลิปวีดีโออันนึงดูแล้วซึ้งมากอยากเอามาแบ่งให้ดูกัน

***************************************

เหตุเกิด ณ ประเทศชิลี เป็นคลิปข่าวที่กำลังดังมากในขณะนี้

หมาตัวหนึ่งถูกรถชน หมาอีกตัวที่เป็นเพื่อนกันรีบข้ามถนนไปช่วยดึงหมาที่บาดเจ็บออกมาจากกลางถนน
หลังจากที่มันช่วยหมาที่บาดเจ็บออกมาได้ แต่หมาฮีโร่ตัวนี้กลับวิ่งหนีหายไป เจ้าหน้าที่ยังตามตัวไม่พบ
ขณะนี้ ผู้คนมากมายกำลังพยายามตามหาตัวมันอยู่



ดูสิคะ... ขนาดหมามันยังรักกันเลย
แล้วคนไทยเป็นอะไร... ทำไมไม่รักกันล่ะคะ

Sunday, December 07, 2008

สอบวัดระดับ (ใจ)

เห็นชื่อหัวข้อแล้วอย่าเพิ่งคิดว่าจะมาน้ำเน่าอีกแล้ว...
เพราะเีรื่องที่จะเล่าวันนี้ไม่ใช่ละครน้ำเน่า แต่เป็นละครเศร้า T_T

ผ่านไปสองปีสำหรับการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น
เมื่อสองปีที่แล้วไปสอบระดับสามมา แล้วก็ ได้ระดับสามมานอนกอดเล่นอยู่สองปี

เวลาผ่านไป...
หลายๆอย่างได้พิสูจน์ว่ากาลเวลาไม่ได้ทำให้ขจีภรณ์ฉลาดขึ้นเลย T_T

วันนี้ไปสอบระดับสองมา....

ภาพบรรยากาศตอนเช้า คนต่อแถวเพื่ออกจากสถารีไปสอบ
Photobucket

สอบที่นี่ค่ะ Tokyo University of Foreign Studies
Photobucket

ตึกสวย...
Photobucket

แต่คนเยอะ ตึกสวย ก็ไม่ได้ทำให้ทำข้อสอบได้

สอบตกแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยคิดเลยว่าจะสอบตกอะไรอีกแล้วหลังจากที่ตกวิชาปิงปองตอน ม.1

ฮือออออออออออออออออออออ ปะป๊าหม่าม้าหนูขอโทษษษษษษษษษษษษษษษษษ

เล่มนี้ก็ต้องเก็บไว้อ่านต่อไป
Photobucket

เพราะฉะนั้นการสอบครั้งนี้็ก็ึคงวัดระดับภาษาญี่ปุ่นของเราไม่ได้ (อาจจะวัดได้ว่าไม่ฉลาด เหอๆ)
ก็คงวัดได้แค่ระดับใจว่า ... ถึงแม้จะรู้ตัวว่าโง่ก็ยังอุตส่าห์ไปสอบ

เตรียมตัวซื้อใบสมัครสอบใหม่ไปสอบกลางปีหน้า T_T

Friday, December 05, 2008

วันพ่อ...



Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

Photobucket

คิดถึงปะป๊าค้าบบบบบบบบบบบบ...........

Wednesday, December 03, 2008

ประเมินผลออนไลน์ TJIA2008

ร่วมประเมินผลออนไลน์งาน TJIA2008 ได้ที่นี่ค่ะ

(http://tjia.tsaj.org/eval/form.php

ขอความร่วมมือผู้ร่วมงานทุกท่าน เพื่อที่ทางทีมงานจะได้นำไปปรับปรุงให้งานดียิ่งขึ้นในปีต่อไปค่ะ

ขอบคุณค่ะ... ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความประทับใจไม่รู้เลือนในงาน TJIA2008 & TSAJ Sports Day

TJIA2008


TJIA2008


TJIA2008


TJIA2008

Wednesday, November 26, 2008

Tuesday, November 25, 2008

Wednesday, November 19, 2008

บ้านตรงข้าม....

Photobucket

เดือนนี้ไม่มีเรื่องจะอัพเลย ... เอาเรื่องนี้ละกัน ฮ่าๆ

เมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา พ่อกะแม่มาเยี่ยมที่โตเีกียว
มีอยู่วันหนึ่งแม่ก็พูดขึ้นมาว่า "โบว์ ... อย่ามองไปบ้านตรงข้ามตอนกลางคืนนะลูก"

อ่าว... ทำไมอ่ะ สงสัยอ่ัะดิ

เมื่อวานนี้ ... ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมองหรอก พอดีว่าออกไปตากผ้า
(ตากผ้าตอนกลางคืน ตอนเช้าไม่มีเวลา ฮ่าๆๆๆ)
บังเอิญมองไปบ้านตรงข้ามซึ่งไฟสว่างอยู่

บ้านตรงข้ามที่คือ ตึกตรงข้ามน่ะแหละ เยื้องๆลงไปทางข้างล่างหน่อย

ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งเล่นคอมอยู่จู่ๆแกก็ถอดเสื้อ!
และถอดเสื้อชั้นใน!!!!!!!!!!!!!

คือ ที่แม่เตือนไว้น่ะคือว่าบ้านตรงข้ามมันมีหญิงชายอยู่คู่หนึ่งเป็นอะไรไม่รู้
ชอบแก้ผ้าอยู่ในบ้าน .. ซึ่งก็คงไม่แปลก เพราะบางคนอาจจะไม่ชอบใส่เสื้อผ้าอยู่บ้าน
แต่นี่เล่นเปิดหน้าต่าง เปิดม่านซะกลัวโลกไม่รู้ว่าชั้นจะผ้า~!

เมื่อวานนี้เห็นแค่ผู้หญิง ... จริงๆแล้วมันมีผู้ชายด้วย จากที่พ่อแม่และพี่บอกมา

ใครอยากมาอยู่เชิญที่บ้าน ... เดี๋ยวเก็บค่าดูด้วยเป็นเงินสนับสนุนค่าน้ำค่าไฟ ฮ่าๆๆๆๆ

****************************

เอ้อ... ชีวิตในญี่ปุ่นมันก็มีอะไรประหลาดๆอย่างนี้ให้เจอบ้างในบางที

Tuesday, November 11, 2008

Typical Japanese Girls' Legs!

Photobucket

รูปนี้ถ่ายได้ตอนกำลังเดินไปเรียนภาษาญี่ปุ่นตอนเช้าที่ชิบุย่า

น่ากลัวมะ ...
เห็นมาหลายคนแล้ว กลัวข้อเท้าเค้าจะหักกันเหลือเกิน

ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีข้อเท้าแบบนี้กัน
เพราะใส่ส้นสูง แล้วเดินมากหรือเปล่า???

นี่ขนาดตอนเค้ายืนเฉยๆนะ มันยังเอียงขนาดนี้
ตอนที่เค้าเดินอ่ะเธอเอ้ยยยยยย เดินดูไปลุ้นไปว่าข้อเท้าเค้าจะหักดังเป๊าะ! หรือเปล่า เหอๆ

Wednesday, November 05, 2008

วันใบไม้ร่วง...

Photobucket

ขณะนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว...
จริงๆแล้วเค้ามีวันกำหนดนะว่าวันเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วงคือวันที่ 23 กันยายน
แต่ค่อนข้างจะขัดใจเล็กน้อยเพราะว่าวันที่ว่านั้นอากาศยังร้อนตับแตกอยู่เลย

ตอนนี้จู่ๆอากาศที่โตเกียวก็เปลี่ยนอย่างฉับพลันเสียอย่างนั้น
เสื้อผ้าในตู้ท่าทางจะต้องเปลี่ยนเซ็ทใหม่เร็วๆนี้
เสื้อหนาวที่พับเก็บเรียบร้อยใส่ตู้ไว้คงได้โอกาสที่จะเอามาปัดฝุ่นเพื่อใช้อีกครั้ง

หลายๆที่ในญี่ปุ่นใบไม้แดงเริ่มร่วงกันแล้ว
บางที่ใบไม้ก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนสีเสียที
ในขณะที่โตเกียวใบไม้กำลังจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง และสีเหลืองอย่าช้าๆ

อีกไม่นานใบไม้บนต้นก็จะร่วงหล่นจนเหลือแต่เพียงก้านในฤดูหนาว

และอีกไม่นานเช่นกันก็จะมีใบไม้เล็กๆผลิออกมา ดอกไ้ม้นานาชนิดจะผลิบานต่อไปในฤดูใบไม้ผลิ

หลายๆคนเปรียบเทียบบรรยากาศของฤดูใบไม้ร่วงเป็นบรรยากาศแห่งความเหงา
กลับไปอ่านบล็อคเก่าสมัยใบไม้ร่วงแรกที่โอซาก้า ... ตอนนั้นค่อนข้างจะเห็นด้วยกับความเห็นนั้น
(ลองไปอ่านเรื่องสมัยเอ๊าะๆกันได้)

ใบไม้ร่วงสุดท้ายในญี่ปุ่น (หวังว่า)
อาจเรียกว่าเป็นฤดูกาลที่แปรผันเสียมากกว่าจะเป็นฤดูกาลแห่งความเหงา

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชินหรืออย่างไรความเหงาไม่ค่อยบังเกิดเท่าไหร่
สิ่งที่เกิดขึ้นมาแทนคือความเปลี่ยนแปลง ...

อากาศเปลี่ยนแปลงง่ายและรวดเร็วขึ้นเท่าไหร่ ความรู้สึกก็เปลี่ยนได้ง่ายดายเช่นกัน
ใบไม้เปลี่ยนสี ร่วงหล่น เรื่องราวเก่าๆก็เลือนลาง ลบเลือน

.......แต่การเปลี่ยนแปลงของอากาศ หรือการร่วงหล่นของใบไม้
ก็บอกเราเป็นนัยๆได้เหมือนกันว่า สิ่งใหม่ๆกำลังจะก้าวเข้ามาในอีกไม่ช้า

Sunday, October 26, 2008

Meet the doctor

เป็นตากุ้งยิงค่ะ

เมื่อสองวันก่อนเลยตกใจมากเพราะว่าไม่ได้เอายาหยอดตามาด้วยจากเมืองไทย
เลยโทรไปปรึกษาพี่ๆหมอทั้งสองในโตเกียว

พี่ส้มบอกว่าพี่ส้มมียาหยอดตาแต่ว่าไม่ได้เข้าเมืองเอามาให้ไม่ได้ ลองติดต่อพี่ฮงดูเผื่อว่่าอาจารย์พี่ฮงจะซื้อให้ได้
แล้วก็บอกว่าให้หยอดซะนะตอนนั้นพี่เป็นเม็ดขึ้นต้องเก็บไปเจาะที่เมืองไทย เหอๆ

โรงพยาบาลญี่ปุ่นอย่าให้พูดเลยถ้าป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลนานนี่เป็นเรื่องใหญ่มากๆ
ตอนนั้นเพื่อนที่เซมิคนญี่ปุ่นป่วยมากนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน (ต้องดีเฟนด์ thesis ผ่านโทรศัพท์)
วันนั้นไปเยี่ยมท่าทางแกหดหู่มากๆ เพราะแกอยู่ห้องรวม ทีวีก็ไม่มี (ต้องหยอดเหรียญดู) ตู้เย็นอะไรเนี่ยไม่มี
ดีนะที่แกอยู่ติดหน้าต่างยังมองออกไปชมนกชมไม้ให้เพลินๆได้

ได้ความรู้ใหม่มาจากพี่ส้มว่าญาตินอนด้วยไม่ได้ ชุดคนป่วยก็ไม่มีต้องเอามาเอง -_-"
เหมือนจะไล่ว่่าให้หายป่วยแล้วออกจากโรงพยาบาลไวๆ ที่มันน้อย ฮ่าๆ

จะให้แอตมิตที ก็ยากมากๆ ต้องป่วยแบบเกือบจะตายแล้ว ถึงให้นอนโรงพยาบาล O_o

ไม่เหมือนโรงพยาบาลเมืองไทย (บางที่) เอะอะก็แอตมิต แถมอยากให้อยู่นานๆอีก
(เผลอกินน้ำไปนี่เสียค่าน้ำไปขวดละเท่าไหร่ไม่รู้ อย่างกับโรงแรม เหอๆ)

อ่อ พอดีกลับเมืองไทยคราวที่แล้วอาม่าเพิ่งเข้าโรงพยาบาลมาค่ะ เลยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้ เหอๆ

มาเข้าเรื่องของเราต่อๆๆๆ

เสร็จแล้วเลยโทรไปหาพี่หมอฮง
พี่ฮงบอกว่าให้รีบไปหายามาหยอดเลยนะ เพราะเท่าจากที่ฟังอาการ (ทางโทรศัพท์) แล้ว
ถ้าโบว์เก็บไปหาหมอที่มหาวิทยาลัย (ค่ารักษาฟรี งก ฮ่าๆ) วันจันทร์เนี่ย ตอนนั้นเม็ดมันคงขึ้นแล้วล่ะ

อ่ะ เอารูปตามาให้ดูว่ามันเป่งแล้ว
Photobucket

ก็เลยตกใจมาก ตายแล้ววววว ชั้นจะต้องกลับเมืองไทยไปเจาะตากุ้งยิงเนี่ยนะะะะะ ใช่เรื่องไหมเนี่ย

พี่ฮงเลยกรุณามากๆ เข้าไปหาคลีนิคจักษุแพทย์ที่ชินจุกุให้โบว์
(ตอนนั้นอยู่ชินจุกุ)

จากที่เคยเลี่ยงมาตลอดว่าไม่อยากไปหาหมอที่ญี่ปุ่น (เพราะได้ยินคนเล่าถึงกิตติศัพท์มาเยอะ)
แถมกลัวแพงอีก ค่าหาหมอนี่เท่าไหร่เนี่ยยยยยยย (ปลายเดือน...มีวิกฤติการณ์การเงินอยู่)
ก็เลยต้องจำใจไปหา เพราะว่ายาหยอดตาที่นี่ไปซี้ซั๊วะซื้อเองไม่ได้นะ ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ เฮ้อออ

พอไปถึง ...
ก็เข้าไปตรวจ ... ประมาณสามนาที

หมอพูดเร็ว และรัวมากกกกก พูดยังกะว่าเราเป็นคนญี่ปุ่น
ก็แอบฟังออกประมาณว่า เจ็บมั้ยๆ ปกติใส่คอนแทคหรือเปล่า (วันนั้นใส่แว่นไป)
อืมตาล่างบวมนะ เดี๋ยวหมอสั่งยาหยอดให้หยอดใันละสี่ครั้ง

จบ....

ไม่เกินสามนาทีอ่ะสาบานได้

แล้วก็ไปจ่ายค่ารักษา พร้อมกับได้ใบสั่งยามา (ต้องเดินไปซื้อเองด้วย)
Photobucket

ต้องขอบคุณบัตรประกันสุขภาพที่เสียตังค์เดือนละหลายพันทำให้เราได้ลดค่ารักษาลง 65%!!!!
เหลือค่ารักษา 1,160 เยน แม่เจ้าตกใจ ทำไมถูกจัง ก็กลัวมาตั้งนานว่ามันจะต้องแพงมากมาย เหอๆ

ไปซื้อยามาหยอดอีก 580 เยน
ได้เจ้าขวดเล็กๆมาสองขวด
Photobucket

อ่อ ... ยังไม่ใช่แค่นั้น
ไปอ่านเว็บวาเซดะที่พี่ป็อปส่งมาให้ สรุปว่ามหาวิทยาลัยเรานี่มีกองทุนช่วยเหลือทางด้านสุขภาพให้นักศึกษาต่างชาติ
คืิอ จากที่จ่ายเองแค่ 35% (เพราะประกันสังคมจ่ายที่เหลือให้)
ก็กลายเป็นจ่ายแค่ 5% มหาวิทยาลัยออกให้อีก 30%!!!
Photobucket

(แต่ต้องเอาบิลไปเบิกนะ เค้าจะโอนเงินคืนให้)

สรุปว่าไปหาหมอคราวนี้ถูกมากๆค่ะ เหอๆๆๆๆๆ

ขอบคุณประกันสังคม (ที่จ่ายเงินทุกเดือน) และกองทุนสนับสนุนด้านสุขภาพให้นักเรียนต่างชาติที่ทำให้หนูมีโอกาสนี้

แต่เอาจริงๆนะ ...
อย่าป่วยเลยจะดีกว่า เดี๋ยวจะได้เจอประสบการณ์สยองในโรงพยาบาลญี่ปุ่น (ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น)
เหอๆๆๆๆๆๆๆ

Thursday, October 23, 2008

งานคือเงิน เงินคืองานบันดาลสุข

คือว่า...
เป็นคุณครูแล้วค่ะ อย่างเป็นทางการ เหอๆ

หลังจากได้รับการสืบทอดการสอนต่อจากพี่มามิ
วันนี้คุณครูโบว์เริ่มสอนภาษาไทยเป็นวันแรก

ตื่นเต้นมาก เพราะว่านอกจากจะเป็นการสอนครั้งแรกแล้ว
ยังเป็นการทำงานครั้งแรกอีกต่างหาก ฮ่าๆๆๆ...
อยู่บนโลกนี้มายี่สิบกว่าปีไม่เคยทำงานเป็นเรื่องเป็นราวเลยแม้แต่ครั้งเดียว

สอนอะไรเหรอคะ...
สอนภาษาไทยค่ะ เหอๆ

นักเรียนเป็นคนญี่ปุ่น 6 คน (แต่วันนี้มา 3 คน)

แล้วเป็นการสอนภาษาไทยขึ้นสูง ... ก็งงๆขั้นสูงนี่มันยากขนาดไหนหนอ
เตรียมตัวมาตั้งนาน ทำเป็น pre-test มาเลย นั้่งเตรียมอยู่หลายชั่วโมง
ได้มาเป็นข้อสอบ ฟัง ไวยากรณ์ อ่าน เขียน ทั้งหมด 7 หน้าถ้วน เหอๆ

พอถึงวันสอน... ที่นี่ค่ะ
Photobucket
ชื่อว่าโรงเรียน Waseda Hoshien เดินจากคณะเราไปแค่ 5 นาทีเอง

ในโรงเรียนมีตึกเก่า .. เดินไปเจอโปสเตอร์เขียนว่าโรงเรียนนี้เปิดมา 100 ปีแล้ว!!!!
Photobucket

แล้วก็ไปเตรียมการสอน
Photobucket

....

เวลาผ่านไป
ถึงได้รู้ว่าไอ้ที่เตรียมมามันยากไปมากๆ -"-

ให้ดูนักเรียนทำ ... ทดไว้ซะมากมาย
Photobucket

ตรวจออกมาแดงเถือก...
Photobucket

นอกจากนี้เวลาสอนก็ยังยากอีกนะ...
นึกออกป่ะว่าใช้อยู่ทุกวันมันก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะอธิบายยังไง

เช่น ในบทความบอกว่า ....

"เนื้อคู่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล"

เนื้อคู่แปลว่าอะไร

แล้วไม่ใกล้ไม่ไกลนี่ตกลงใกล้หรือไกล

เหอๆๆๆๆๆ -"-

ค่ะ... คราวหน้าจะซ้อมอธิบายไปด้วยค่ะ (-/I\-)

(ทำงานทุกวันพฤหัสบดี 19.00-20.30 ค่า)

Friday, October 17, 2008

แด่ทุกท่านที่ยุ่งกับงานและอยากแยกร่างได้ ...


(คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ค่ะ)

เครดิต: พี่ไก่ ซึ่งเคยแยกร่างมาก่อนหน้านี้แล้ว เห็นงานเค้าแล้วอยากแยกร่างได้มั่งเลยขอให้เฮียจัดให้ หุหุ

ไม่มีไรหรอก...
พอดีเห็นคนอื่นงานยุ่งๆกัน ไอ้เราก็ว๊างว่าง งานไม่มีเลย
เทอมนี้ไม่ได้ลงเรียนสักตัว มีแต่เรียนภาษาญี่ปุ่นทุกวันซึ่งดูดพลังชีวิตมากมาย กลับถึงบ้านนั่งทำนู่นนี่ได้แป๊บเดียวก็สลบแล้ว
อย่าสงสัยว่าทำไมไม่เล่นเน็ทดึกๆ เรียนเช้าค่าเก้าโมง ตื่นตั้งแต่หกโมงครึ่ง (เพราะโอ้เอ้มากมาย)

อย่างที่บอกไว้ entry ที่แล้ว
ก็ thesis outline ผ่านแล้ว ก็เลยหล่นล้าไร้สาระไปวันๆ ฮ่าๆๆๆ

แต่มันก็แค่ outline อ่ะนะ คาดว่าเร็วๆนี้คงจะอยากแยกร่างได้จริงๆ -"-

Wednesday, October 15, 2008

ครึ่งหลัง...

Photobucket
(รูปไ่ม่ได้เกี่ยวกับเนื้อเรื่องแต่อย่างใด เอามาใส่งั้นๆ เดี๋ยวมันจะโล่งไป หุหุ เครดิตให้พี่ป็อปค่า)

ถ้าเปรียบชีวิตเหมือนกีฬา

อาจจะเหมือนกันหลายๆอย่าง
เช่น ...

ชีวิตจริงก็เหมือนในเกมกีฬาที่ไม่มีใครที่เป็นผู้ชนะเสมอ ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ต้องมีฟอร์มขึ้น ฟอร์มตกเป็นธรรมดา

ในชีวิตของเรามีคนที่เข้ามาและจากไปเสมอ เหมือนทีมกีฬาที่มีการซื้อขายตัวนักกีฬา (โดยทั้งความเต็มใจและไม่เต็มใจ)

เกมกีฬาบางอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยว่าจะอำนวยต่้อการเล่นหรือเปล่า ชีวิตเราก็เหมือนกันหลายๆครั้งเราก็ไม่้สามารถเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจบางอย่างได้ ... ดื้อไปฝืนไปก็เท่านั้น ถ้าสภาพรอบตัวไม่อำนวย อย่างไรก็ทำไม่ได้ หรือถ้าทำได้ก็คงไม่ดีพอ

ฯลฯ

ชีวิตในญี่ปุ่นตอนนี้ของเราถ้าเปรียบกับเกมกีฬาก็เรียกได้ว่าเข้าสู่ "ครึ่งหลัง" แล้ว

ปีที่สองในประเทศญี่ปุ่น (ในการมาครั้งนี้)
อาจจะเป็นปีที่ไม่หวือหวานัก เพราะไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจเหมือนตอนแรกๆที่มาถึง

ถ้าเปรียบเป็นนักกีฬาก็คงเหมือนนักแข่งที่ไม่ตื่นสนามแล้ว
ซึ่งบางทีก็มักจะึคิดว่าเมื่อไหร่จะจบครึ่งหลังเสียที วิ่งมาจนเหนื่อยเต็มทีแล้ว

พอจบเกมเข้าจริงๆ การที่จะต้องเดินออกจากสนาม บอกลาคู่แข่งและเพื่อนร่วมทีมไป
ก็คงจะมีัอาการใจหายบ้างเหมือนกันก็ได้นะ

แต่คงจะมัวใจหายไม่้ได้ เพราะเมื่อจบเกมลงก็ยังคงมีเกมนัดใหม่รออยู่
ต้องเจอกับคู่แข่งใหม่ สนามใหม่ และสภาพอากาศที่มักจะแปรผันไปได้ตลอดเวลาอีก

อย่างไรก็ตาม ... ก็ขอให้เกม (ชีวิต) เกมนี้ี้ ไม่มีทดเวลาบาดเจ็บก็แล้วกันนะ อิอิ
(ขอเรียนจบตามเวลานะคะ ... สาธุ)

****************

พรีเซนต์หัวข้อวิทยานิพนธ์ไปแล้วเมื่อวานนี้
ผ่านฉลุย อาจารย์ชอบมาก เหลือแค่อ่านหนังสือและลงมือเขียนเท่านั้น
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

Monday, October 06, 2008

หน้าเดิมๆ

ยังไม่หมดกับซีรีส์ภาพคุ้ยกรุเก่ามาอวด ฮ่าๆ

ตอนนี้ไปตัดผมมาใหม่ หลังจากลองทรงน้องโฟร์ และทรงน้องพอใจมาแล้ว...
ไปตัดมาเพิ่มสั้นกว่าเดิมอีก จนแม่ถามตอนตัดเสร็จใหม่ๆว่า "ทรงนักเรียนเหรอ" เหอๆๆ

คิดว่า ... คงไม่นะ -"-

ไปเปิดกรุรูป ... อ่าวเอ๊ะ นี่มันทรงเดียวกับที่ตัดตอนอนุบาลเลยนี่หว่าาา
Photobucket

อ่าว ... แบบนี้มันก็ืทรงนักเรียนจริงๆอ่ะดิ -"-

Friday, October 03, 2008

นางแบบ...

...เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
(รูปนี้ถ่ายเมือ 29 มิถุนายน 1988 ตอนอายุ 4 ขวบ)

Photobucket

ดูมาดดิชั้นซะก่อนค่ะคุณ
มีเผยอปากซะด้วย รู้งานจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ

Thursday, October 02, 2008

จุดเิริ่มต้น...

Photobucket

จาก "If we ever break up, this is my book" โดย Jason Logan
(บันทึกรัก (วันที่เราเลิกกัน)) แปลโดย คณาคม พลังไพศรพณ์ ลายมือภาษาไทยโดย ทวีศักดิ์ ศรีทองดี

Friday, September 26, 2008

ค่อนข้างตรง...

มีีคนส่งเมลมาให้ ... คิดว่าส่วนใหญ่แล้วตรงกับตัวเอง
มีบางข้อเท่านั้นที่ไม่ค่อยตรง เช่น ไม่ค่อยเก็บอะไรมาคิดให้รกสมอง ฮ่าๆ
ตอนนี้สมองรกมาก หุหุ

ช่วยดูกันหน่อยว่ามันตรงกับโบว์ป่าว

*************************************

คนเกิดปีชวด

ปรับตัวได้เก่งในทุกสถานการณ์
คารมดี พูดจูงใจเก่งมาก
ไอ.คิว.เป็นเลิศ
รักใครเป็นทุ่มหมดใจหมดกระเป๋า
เห็นวันนี้แสนขยัน แต่พรุ่งนี้อาจนอนขี้เกียจทั้งวัน
เป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาด
มีความทะเยอทะยานสูง
เป็นนักสะสม
เป็นนักชอปปิ้ง ชอบของลดราคา
เพื่อนมาก ญาติเยอะ
ชอบพึ่งพาตนเอง
ไฮเปอร์จัด มาดนิ่ง แต่ไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย
ไม่ชอบความผูกพัน
เก็บความลับเก่ง
เก็บความรู้สึกก็เก่งนะ
เก็บเงินได้ ใช้เงินเป็น
แก้ปัญหาเก่งมาก
แต่แสดงออกทางอารมณ์ไม่เก่ง
ถือผลประโยชน์ตนเป็นสำคัญ
ขี้หวง ขี้หึง
ขี้บ่น ขี้ระแวง
ช่างติ ช่างวิจารณ์
ไม่ชอบเก็บอะไรมาคิดให้รกสมอง
บางครั้งก็เชื่อใจผู้อื่นง่ายเกินเหตุ
ชอบสังสรรค์บันเทิง
ถนัดดูแลงานด้านท่องเที่ยวบันเทิง
คิดฝันในเรื่องรักแบบซึ้งสุดใจ
เน้นความสบาย ไม่ชอบเรื่องซีเรียสใดๆ
ไม่ถนัดเรื่องละเอียดอ่อนนัก

Tuesday, September 23, 2008

D' Masiv - Diantara Kalian

kuakui ku sangat sangat menginginkanmu
tapi kini ku sadar ku diantara kalian
aku tak mengerti
ini semua harus terjadi
kuakui ku sangat sangat mengharapkanmu
tapi kini ku sadar ku tak akan bisa
aku tak mengerti
ini semua harus terjadi
lupakan aku kembali padanya
aku bukan siapa-siapa untukmu
kucintaimu tak berarti bahwa
ku harus memilikimu slamanya

Saturday, September 20, 2008

ความเปลี่ยนแปลง..

ไม่ได้กลับเมืองไทยมาหกเดือน....
แค่หกเดือนแค่นั้นเอง กลับมาคราวนี้เกิดอาการงงหลายอย่าง
ตอนคิดได้ว่าเออ ไม่มีเรื่องจะอัพ น่าจะมาอัพเรื่องนี้ก็ไม่ได้ไปถ่ายรูปมาประกอบเท่าไหร่ เลยมีแต่ตัวอักษรนะวันนี้ ฮาๆ

ปกติแล้วจะมีอารมณ์นี้บ่อยนะ ไม่กลับเมืองไทยครึ่งปี
แต่ไม่รู้สึกว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงจนตกใจมากมายขนาดนี้

ไปสยามเมื่อวานนี้นัดกินข้าวกับน้องริโกะ
เดินมาสยามแล้วก็คิดว่ากินอะไรกันดีน้ออออ

พอสิ้นคิดก็มักจะคิดถึงร้านประจำ คือ Iberry Kitchen
ที่ปกติไปกินบ่อยมากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก....

มาคราวนี้เดินไปถึง ... อ่าว มันหายไปไหนแล้วหว่า
คือร้านมันหายไปแล้วอ่ะ ใครที่เคยไปทาน Iberry Kitchen คงจะรู้ว่าร้านมันมีสองชั้น
ชั้นล่างขายไอติมของ Iberry ชั้นบนขายอาหารฝรั่ง ...

ตอนนี้เหลือแต่งข้างล่างละ กลายเป็น Iberry Cafe
แล้วก็กั้นตรงส่วนที่จะขึ้นไปข้างบนทำเป็นบันไดขึ้นไปร้านอื่น เหอๆ

คิดได้งั้นน้องริโกะ (ซึ่งไม่ค่อยได้กลับไทยเหมือนกัน) ก็บอกว่า เออ.. งั้นไปกินร้านสิ้นคิดหนูละกัน
คือ "ไอดินกลิ่นครก" ซอยเดียวกัน ... เดินไป เอ๊ะ ร้านหายไปอีกแล้ว!!!
อะไรกัน หกเดือนที่แล้วยังมากินอยู่เลยง่ะ

เลยไปจบที่ร้าน "จุฑารส" ที่ตอนนี้ renovate ร้านใหม่ บรรยากาศดีเชียว
มีโซฟาให้นั่ง มีระเบียงออกไปนั่งนอกร้าน ชั้นบนสุดก็เป็น outdoor น่ารักทีเดียว

แล้วราคาอาหารก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน เหอๆ... แพงขึ้นมาเลย

มีเอ๊ะอีกหลายอย่างในสยาม ...
คือมีการทุบๆสร้างตึกใหม่กันเยอะมาก จะเลี้ยวรถเข้าสยามเข้าไม่ถูกเลย ไม่คุ้นตา เหอๆ

นอกจากในสยามแล้ว ในจุฬาฯก็มีอะไรเปลี่ยนไปเยอะ
อันนี้สังเกตได้เพราะว่าไปจุฬ่าฯบ่อยมาก แล้วก็ยังใช่บริการรถป็อปเหมือนเคย

สิ่งแรกที่ตกใจคือ... ที่คณะเราเอง
Photobucket
งงค่ะ .. ศาลนี้โผล่มาได้อย่างไร

ปกติคณะเรามีศาลอยู่หนึ่งศาลคือ "ศาลเจ้าพ่อสิงห์ดำ" และ "ต้นไทร"

ถามไปถามมา อ๋อ.. คณะครบรอบ 60 ปี เลยสร้างศาลนี้ขึ้น
วันนี้ก็แวะไปไหว้มาเหมือนกัน

นอกจากนี้ยังมีคณะสถาปัตย์ มีป้ายคณะใหม่ สวยเชียว
ตึกใหม่คณะศิลปกรรมก็ใกล้เสร็จแล้ว
ตึกใหม่คณะอักษรก็กำลังทำอยู่ดูยิ่งใหญ่มาก
จามจุรีสแควร์เปิดแล้ว
สามย่านใหม่ยังไม่ได้ไปเลย โว้วววว

ไม่น่าเชื่อ ผ่านไปหกเดือนอะไรๆจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดนี้ ...

แล้วใจคนมันจะไม่เปลี่ยนไปได้อย่างไรน้อออออ
(จบแบบนี้อีกละ หุหุ)

Sunday, September 07, 2008

Well, yeah .. It's Bangkok!

Photobucket

One picture explains everything...


วันก่อนไปตลาดน้ำอัมพวา...
พอดีว่าวันนั้นฝนตกเหมือนฟ้าถล่ม ดีนะตอนที่อยู่ตลาดฝนไม่ตก ออกมาได้แป๊บนึงก็สาดลงมาเลยค่ะ
ฝนตก ตามด้วยอุบัติเหตุ ระหว่างทางกลับเข้า กทม. มีรถชนติดๆกันเกือบยี่สิบคัน (ไม่ได้เว่อร์นะจริงๆ)
รถบางคันโดนรถคันข้างหน้าปีนซะกระโปรงเปิด แถมข้างหลังโดนชนหลังยู่อีก น่าสงสารเจ้าของรถเป็นที่สุด

แล้วก็ไม่เข้าใจ ... ว่าทำไมต้องจอดรถดูกัน -"-

ออกจากอัมพวาห้าโมงครึ่ง ถึงสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชตอนทุ่มครึ่ง
.... หลังจากนั้นนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีสุรศักดิ์รอพ่อมารับ (รูปนี้ได้จากบนสถานีสุรศักดิ์)
พอมารับตอนสองทุ่มครึ่ง ถึงบ้านที่พุทธมณฑลสายสามตอนสี่ทุ่มสิบห้า -"-

นี่แหละชีวิตในเมืองกรุง(เทพมหานคร)ของแท้

Thursday, September 04, 2008

รักในวัยเรียน..

รักในวัยเรียน เหมือนเสี้ยนหนาม
ตื่นก็หวาม หลับก็หวิว ใจปลิวไหว
สมาธิสั้น ขวัญพินาศ อยู่ร่ำไป
กระเจิงใจ กระเจิดขวัญ น่าพลั่นพรึง


ที่มา คัทเอ้าท์ หน้า คณะศิลปกรรมฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2540
(โพสโดยคุณ "เด็กแสบ" ที่ห้อง @Japan ใน pantip.com)

....................

ไม่มีอะไรหรอกค่ะพอดีอ่านเจอแล้วชอบก็เลยอยากเอามาโพสให้อ่านกัน
ส่วนตัวตอนนี้สบายดี ... ออกไปไหนไม่ค่อยได้เพราะขับรถไม่เป็น
งานไม่ค่อยเดินเพราะไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน กลับมาเก็บข้อมูลนี่วุ่นวายกว่าที่คิด
เพราะบางอย่างก็ไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะไม่ได้ข้อมูล ตอนนี้เลยต้องมานั่งวางแผนวิจัยใหม่
สถานการณ์การเมืองวุ่นวาย ชีวิตก็วุ่นวายเช่นกัน...


ว่าแต่ ... แล้วเมื่อไหร่เราจะพ้นวัยเรียน ผ่านมา 24 ปีแล้วนะ -"-

Sunday, August 31, 2008

กลับไทยค่า...

Photobucket

กลับไปเก็บข้อมูลทำ thesis ที่เมืองไทยตลอดเดือนกันยายนค่ะ
(ไม่ใช่ข้ออ้าง กลับไปทำงานจริงๆ ... หวังว่านะ -"-)

อาจจะไม่ค่อยได้อัพ ไม่ใช่เพราะไม่มีเวลา
แต่เน็ทที่บ้านเป็น dial-up modem ความเร็ว 56k ค่ะ
อะไรจะอนาถขนาดนี้ แต่คิดในแง่ดีอย่างน้อยก็เล่น MSN ได้ -"-

กลับมาโตเกียวเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ คาดว่าเป็นต้นๆเดือนตุลาคม

แล้วพบกันค่ะ ^____________^

Thursday, August 28, 2008

Congratulations, My Dearest Sister!

Photobucket

พี่ตองพี่สาวคนสวยเข้าพิธีหมั้นไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ตอนแรกวางแผนไว้ซะดิบดีว่าจะกลับไปงานหมั้นพี่ตองให้ได้ (เพราะว่างานแต่งไม่น่าจะไปได้)
แต่จนแล้วจนรอดก็มีแค่เราคนเดียวที่ยังต้องถูกกักขังอยู่ในมหาวิทยาลัย เพื่อเรียนซัมเมอร์วันละห้าชั่วโมงเป็นเวลาห้าวัน

เสียดายที่ไม่ได้ไปงานพี่ตองกับพี่ต้น แต่แอบส่งใจไปยินดีจากดินแดนไกลโพ้นทะเล
ขอให้พี่ทั้งสองคนรักกันมากขึ้นๆทุกๆวันนะคะ

^_________________________________^

Monday, August 25, 2008

เหนื่อยไหม ... สิ่งที่เธอทำอยู่

Photobucket

บังเอิญเดินเจอที่ฮาราจุกุ...
สงสัยว่าทำผมกี่ชั่วโมง

และ... หนักกี่กิโล

เหนื่อยไหมเนื่อจะออกจากบ้านครึ่งนึง เหอๆๆๆ

Tuesday, August 19, 2008

What do I really want? (ภาค 2)

สืบเนื่องจาก entry ชื่อ What do I really want? เมื่อเดือนที่แล้ว
อันนี้ใน blogger
อันนี้ใน multiply
(ใน blogger ไม่ค่อยมีคนอ่านเท่าไหร่แล้วเดี๋ยวนี้ แต่เอาเหอะถือว่าเป็น original เราก็จะยังคงไว้ ฮ่าๆ)

ขอบคุณทุกๆคนมากนะคะกับทุกความเห็น

ตอนนี้โบว์พยายามบอกตัวเองให้เลิกคิดสักพัก เพราะบางทีมันจะมีช่วงที่คิดทำอะไรแผลงๆขึ้นมาเนื่องจากอารมณ์ชั่ววูบหลังจากการนั่งคิดถึงอะไรเดิมๆมาเป็นระยะเวลานาน อาจจะเป็นได้ว่าเพราะพอคิดอะไรเดิมๆนานๆ สมองเริ่มสั่งการว่า เออ รีบๆตัดสินใจทำไรสักอย่างเหอะ ชั้นเหนื่อยที่จะคิดแล้วววว

แต่ต้องขอบคุณสติที่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้โบว์ตัดสินใจอะไรที่มันจะทำให้มา นั่งเสียใจในอนาคตไป

ตอนนี้เลยเลิกคิดค่ะ กะว่าไว้รอให้มันมีปัจจัยอะไรเข้ามากระตุ้นก่อนละกันค่อยมานั่งคิดใหม่ เพราะตอนนี้คิดไปก็เหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง คิดวนไปวนมาไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลย

....

ว่าแล้วก็ขอเล่าประสบการณ์การเป็นคนชอบวางแผนของตัวเองอีกสักหนึ่งข้อ ที่ปกติเวลาเล่าให้ใครฟังเค้ามักจะบอกว่าบ้า ฮ่าๆ

คือตอนเรียนอยู่ที่จุฬาฯ ก่อนนอนทุกคืนจะนอนคิดว่า "อืม ... พรุ่งนี้เช้าไปโรงอาหารจะสั่งอะไรดีน้อออ"

เช้ามาก็ไม่ต้องคิดเลยค่ะว่าจะทานอะไรเป็นอาหารเช้า เดินไปถึงโรงอาหารปุ๊บสั่งได้เลยทันที ฮ่าๆๆๆๆๆ

แปลกไหมคะคนแบบนี้

....

ปล. พี่ป็อปจะต้องเข้ามาแซวว่าเพราะว่าเป็นเรื่องกินเลยคิดมากใช่มะล่ะสิ รู้ทันนะ เหอๆ

Saturday, August 16, 2008

ภาพที่เห็นชินตา...

Photobucket

โตเกียว คืนวันศุกร์ รถไฟเที่ยวดึก และคนเมา....

วัฒนธรรมการสังสรรค์ดื่มเหล้าสังสรรค์เป็นเรื่องที่ปกติมากๆในสังคมญี่ปุ่น
ดังนั้นไม่แปลกที่คืนวันศุกร์ในรถไฟรอบดึกจะมีคนเมาให้เห็นเสมอๆ (เพราะดื่มแล้วขับไม่ได้นะจ๊ะ กฎหมายมันแรง)

ปกติแล้วคนเมาในโตเกียวจะมีหลายรูปแบบมาก วันนี้เอาเพียงแค่รูปแบบนึงมาให้ชม
ที่เห็นกันบ่อยๆก็เป็นพวกเมาแล้วก็นอนแผ่หลาอยู่ในสถานีจนนายสถานีต้องมาเก็บไป

ที่เคยเจออีกแบบคือรถไฟไม่แน่นเท่าไหร่ แต่คุณลุงนี่หมดสภาพมากๆ ขึ้นรถไฟมาล้มลุกคลุกคลาน
รถเบรคที่นึงแกก็ล้มทีนึง มีครั้งนึงแกล้มไปนั่งทับสาวแถวนั้น (ที่นั่งอยู่)
วันนั้นเกือบมีเรื่องกันบนรถไฟ ...

บางทีรถไฟแน่นมา่กกกกกกกกกก แต่มันจะมีมุมนึงที่มองจากข้างนอกมา เอ๊ะทำไมไม่มีคนยืนเลย
เดินเข้าไป ... อ๋อ มีกองอาเจียนอยู่ มิน่า เหอๆ

อีกพวกคืออัดกันในรถไฟแน่นๆ แล้วก็โงนเงนๆ ทำหน้าจะอาเจียนตลอดเวลา
อันนี้ไม่เคยเจอ แต่เพื่อนเราเจอบ่อย ฮ่าๆ

ถ้่าเกิดดวงดีเป็นคนที่นั่งอยู่แล้วมีคนเมายืนอยู่ข้างหน้าในขณะที่รถไฟแน่นขนัดจะหนีไปไหนก็ไม่ได้
ลองคิดดูสิว่ามันจะน่าหวาดเสียวขนาดไหน หุหุ

สงสัยที่หลังจะขึ้นรถไฟให้พกถุงพลาสติกส่วนตัวไปด้วย ถ้าเผชิญหน้ากับคนเมาเมื่อไหร่ก็ยื่นถุงให้เค้าซะ

แล้วคุณจะปลอดภัย...

Tuesday, August 12, 2008

วันแม่

Photobucket



เคยมีคนถามว่า ทำไมโบว์ถึงเล่าอะไรทุกอย่างให้แม่ฟังหมดเลย
ประมาณว่าทำไมไม่มีความลับซะมั่ง ฮ่าๆๆ...

นั่นสิ กับแม่เราไม่เคยผิดเรื่องอะไรเลย
มีเรื่องอะไรเล่าให้แม่ฟังทุกอย่าง ทุกสิ่ง โกหกไม่ได้ มีความลับไม่ได้

ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่มีจิตวิทยาในการเลี้ยงยังไงถึงได้เป็นคนแบบนี้

อาจจะเป็นเพราะว่าตั้งแต่เด็กๆแล้ว แม่จะเป็นคนขับรถไปรับที่โรงเรียนเสมอ
เวลารถติดไม่มีอะไรจะทำก็ต้องขึ้นรถมาแล้วก็นั่งเล่าๆๆๆใ้ห้ฟังว่าที่โรงเรียนเกิดไรขึ้นบ้าง
เพราะฉะนั้นแม่จะรู้จักเพื่อนทุกคน ครูทุกคน (ที่เคยมีคดีด้วย) คนทุกคนที่เคยชอบ (เยอะมากกกกกก) คนทุกคนที่เคยมาจีบ (อันนี้น้อยไม่ค่อยมี) ฮ่าๆๆๆๆๆ

เคยสงสัยไหมทำไมโบว์ถึงพูดเก่ง ชวนคุยไปได้ซะทุกเรื่อง (จนบางทีพูดมาก)
ขอบอกว่านิสัยอันนี้ได้จากแม่มาเต็มๆเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ เพราะพ่อเป็นคนไม่ค่อยพูด
เวลาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวก็จะได้ยินแต่เสียงแม่กะเสียงโบว์นี่แหละ พ่อกับพี่มักจะนั่งนิ่งๆ ฟังสองคนนี้พล่ามไป ฮ่าๆๆๆ

พอมาอยู่ญี่ปุ่น ...
คุยกับแม่ไม่ค่อยมากเท่าไหร่นัก
ส่วนใหญ่มักจะคุยเวลามีปัญหา เหอๆ ... มีัปัญหาทีไรหูโทรศัพท์ไหม้ บัตรโทรศัพท์หมดทุกที
เวลาปกติไม่ค่อยโทร แม่จะรู้ทุกทีเวลาไหนมันไม่โทรมาแสดงว่ามันมีชีวิตปกติสงบสุขดี ฮ่าๆ

บางครั้งโบว์นึกถึงแม่หลังจากนึกถึงคนอื่นเสมอ
หลายครั้งโบว์ไม่เคยดูแลความรักของแม่ หลายครั้งโบว์ทำให้แม่ร้องไห้
อาจจะเป็นเพราะโบว์แน่ใจว่ายังไงแม่ก็ยังคงรักโบว์เสมอ และไม่มีทางทิ้งโบว์ไปแน่ๆ
และไปดิ้นรน ไปแคร์ความรู้สึกของคนอื่น ไขว่คว้าปรารถนาเพื่อที่จะได้ความรักความสนใจจากคนเหล่านั้น

อาจจะเป็นสัญชาติญาณลึกๆของมนุษย์ที่มักจะพยายามไขว่คว้าสิ่งที่ไม่ใช่ของเรามาเป็นของเรา
สิ่งไหนที่อยู่กับเราอยู่แล้วเราก็มักจะไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่

โบว์ีูรู้ว่าแม่รักโบว์ที่สุด และไม่มีความรักไหนที่เป็นนิรันดร์เื่ท่ากับความรักของพ่อกับแม่ที่มีให้โบว์อีกแล้ว
ต่อไปนี้ลูกสาวคนนี้จะไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังอีก

วันนี้โบว์อยากจะบอกแม่ว่าโบว์รักมะหมี่กับปะป๊ามากที่สุดในโลกเลยยยยยยยยยยยยย

Photobucket

(อยากเอารูปตอนเด็กๆมาลงอย่างคนอื่นมั่ง แต่ไม่ได้เอามาง่ะ T_T)

Tuesday, August 05, 2008

Summer Sky

ปิดเทอมแล้วอย่างเป็นทางการ ...
หลังจากที่หลังขดหลังแข็งกับการทำรายงาน 7 ตัว presentation 2 ครั้ง และสอบอีก 1 วิชา ในเวลาหนึ่งเดือน
กินมาม่าแทบทุกวัน อ่านหนังสือกว่าสิบเล่ม อยู่หน้าคอมเกือบจะ 24 ชม. ฯลฯ

ไม่รู้ว่ามีชีวิตรอดออกมาจากวงจรอุบาทว์นั้นได้ยังไง แต่ตอนนี้ก็หลุดออกมาได้แล้ว เย้ๆๆๆ

แต่ว่าชีวิตช่วงนี้มันช่างแตกต่าง ... เพราะพอส่งรายงานตัวสุดท้ายไป ก็ว่าง... ว่างเกินไป

อย่างที่บอกไว้ใน entry ที่แล้วว่าไม่ชอบว่างๆ ชอบหากิจกรรมอะไรทำให้มันยุ่งๆๆๆๆ
ตอนนี้มันว่างมากเลย ... อากาศก็แ่ย่ ร้อนมาก แมลงเยอะ เมื่อวานซืนเพิ่งกำจัดไข่หนอนแมลงวันที่ระเบียงไป ฮือออออ
ยาฆ่าแมลงเปรียบเหมือนยาสามัญประจำบ้าน ตอนนี้รมควันถังขยะไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว คือถ้าแมลงมันไม่ตาย ชั้นก็ตายก่อนอ่ะ เหอๆ

กิจกรรมช่วงนี้ส่วนใหญ่ก็คือเดินสายดูดอกไม้ไฟตามที่ต่างๆ จนเริ่มเบื่อ รู้สึกดูไปก็ซ้ำๆแถมต้องไปเบียดเสียดกับชาวบ้านอีก
ผ่านมาสองสามสัปดาห์ไปดูดอกไม้ไฟมาแล้วสองงาน คือ Adachi Hanabi Taikai และ Edogawa Hanabi Taikai ตอนดูมันก็สวยดีอ่ะนะ แต่เบื่อตอนที่ออกมาขึ้นรถไฟ โอ้ววว คนมหาศาล คือตอนมาคนก็ค่อยๆทยอยๆกันมาัไง ขากลับนี่กลับพร้อมกันหมด

อีกกิจกรรมนึงที่ทำทุกวันคือการดูละคร ... ขอได้รับความขอบคุณจาก youtube
ตอนที่กิ๊ฟท์ไปเรียนฮอลแลนด์ กะลูกตาลไปเรียนอังกฤษก็สงสัยนะทำไมพวกมันติดละครไทยกัน แล้วแต่ละเรื่องเก่าๆทั้งนั้น ปริศนา (เวอร์ชั่นหมิว - ฉัตรชัย) งี้ ดั่งดวงหฤทัย (เวอร์ชั่นนัท - ศรราม) งี้

ตอนนี้เข้าใจละ ชั้นก็ติดเหมือนกัน ... ดูละครจบไปแล้วสี่เรื่องภายในระยะเวลาสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ตื่นมาก็จ้องคอมละ จ้องไปจนถึงตอนนอน ...

แถมตอนนี้เวลานอนก็รวนๆ ... ไม่เช้านอนไม่ได้ไม่รู้เป็นไร เหอๆ

entry นี้จริงๆแล้วไม่ได้จะเอามาบ่น แต่ไปๆมาๆ ทำไมมันบ่นไปได้ตั้งยาวหว่า ฮาฮา
ตั้งใจจะเอารูปท้องฟ้าในฤดูร้อนที่ถ่ายมาจากมุมเดิมๆ คือ หน้าต่างตรงหน้าโต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนมาให้ชมกัน
เห็นฟ้าสวยๆแล้วอดไม่ได้ที่จะเก็บรูปมาฝากกันสักสองสามรูป

มุมเดิมๆ แต่ก็ไม่น่าเบื่อที่จะนั่งมองมันทุกวัน
Photobucket

Photobucket

Photobucket

อย่างน้อยหน้าร้อนก็ไม่ได้แย่เสมอไป เพราะอย่างน้อยมันก็มีฟ้าใสๆให้เรานั่งมองทุกครั้งที่ไม่สบายใจไ้ด้เหมือนกัน
ฟ้าฤดูร้อนที่มาต่อจากฟ้าฤดูฝน ... ก็มักจะเป็นท้องฟ้าที่สดใสเสมอ

Happy Summer ทุกๆคนนะคะ อากาศร้อนแต่ใจอย่าร้อนตามล่ะ อิอิ
Photobucket