Wednesday, October 21, 2009
Saturday, October 17, 2009
เก็บตก..ของฝากจาก Ginza
ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาหางานทำต่อไป
สำหรับชีิวตที่นี่ก็ยังคงไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่
เพราะว่าวันๆก็ยังคงไม่ค่อยได้ทำอะไร ฮาฮา
วันนี้เลยขอเอาของฝากที่ซื้อมาก่อนวันที่จะเดินทางกลับมาจากโตเกียวมาฝากกันค่ะ
จริงๆแล้ววันนั้นมีนัดกับสองหนุ่ม พี่ก้องกับพี่ป็อป ไปกินข้าวกันที่ Ginza
วันนั้นเป็นวันเสาร์ก็เลยมีการปิดถนนให้คนเดินเล่นกลางถนนดูสินค้าแบรนด์เนมน้ำลสายหยดติ๋งๆกันไป
แต่ละร้านในย่าน Ginza หรูเริ่ดและแพงระยับ เหอๆ
(Ginza ปิดถนนให้คนเดินทุกๆวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ..วันอาทิตย์จะมีการทำความสะอาดถนนกันด้วย)
ของฝากที่จะเอามาฝากกันวันนี้เป็นขนม (อีกเช่นเีย เหอๆ)
คิดว่าทุกคนคงจะรู้จักเครื่องสำอางค์แบรนด์ดังอย่าง "Sheseido" กันดี
แต่หลายๆคนคงไม่รู้ว่า Sheseido เนี่ยเค้าขายขนมด้วย!
ร้านอาหารและร้านขายขนมของ Sheseido ชื่อว่า Shiseido Palour ตั้งตะหง่านอยู่ในย่าน Ginza นี่เอง
ตั้งอยู่ในย่านนี้ก็พอจะรู้ๆกันอยู่ว่าต้องหรูชัวร์...
เลยไม่มีปัญญาไปกินอาหารในร้านหรอกค่ะ แต่พอจะมีปัญญาซื้อขนมในร้านกลับมาบ้านได้บ้าง 5555+
วันนี้ซื้อเจ้านี่มาฝาก..
กล่องก็ยังหอกระดาษสวยงามสมเป็นญี่ปุ่นจริงๆ
แกะห่อออกมาเป็นกล่องแสตนเลสสีฟ้า สีประจำร้านเขาล่ะ
(ยอมรับว่าซื้ออันนี้เพราะกล่องมันสวย เหอๆ)
เปิดออกมาเจอห่อคุกกี้เรียงกันเป็นระเบียบ...ธรรมด๊าธรรมดา
แต่ก็อร่อยดีนะ...
ใครอยากลองไปหาซื้อขนมก็ลองแวะไปที่ร้านดูนะคะ
http://www.shiseido.co.jp/parlour/html/index.htm
อ่้อ..ที่ในสถานี JR Tokyo Station ที่มีขายของฝากจากโตเกียวเยอะๆก็มีขายนะคะ
แต่หายากหน่อยล่ะ พอดีมีอยู่วันนึงบังเอิญเดินไปเจอเข้า
Friday, October 09, 2009
เตรียมตัวกลับ...
กิจวัตรประจำวันตอนนี้ก็มีไม่กี่อย่าง คือ ออกไปซื้อของเอากลับไทยบ้าง จัดกระเป๋าบ้าง ไปตามนัดต่างๆกับเพื่อนๆบ้าง
ช่วงเวลาสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมามีนัดไปไปหลายนัด ซึ่งหลายๆครั้งก็ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานนนนนนมาก
คือถ้าชั้นจะไม่กลับไทยเธอก็ไม่คิดจะมาเจอชั้นเลยว่างั้นเถอะ ฮาฮา
ตัวอย่างเช่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เจอกับเพื่อนคนญี่ปุ่นที่ไม่ได้เจอกันมา 4 ปี
คือได้เจอกันครั้งแรกที่จุฬาฯ โดยเค้ามางานอะไรสักอย่าง (จำไม่ได้แล้วนานเกิน) แล้วอาจารย์ที่คณะก็ให้ไปดูแลพาเดินเล่นรอบจุฬาฯว่างั้น แล้วก็ติดต่อกันเรื่อยมา นานๆจะส่งเมลหากันสักที คราวนี้ได้โอกาสเพื่อนมาโตเกียวเลยได้เจอกัน
แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้เจอ เนื่องด้วยเวลาว่างไม่ตรงกันหรืออะไรก็ตาม
อย่างเช่นนาโฮโกะ เพื่อนคนญี่ปุ่นที่เคยมาแลกเปลี่ยนที่จุฬาฯ (เพื่อนคนญี่ปุ่นคนเดียวที่คุยกันภาษาไทย ฮาฮา)
ตั้งแต่แกย้ายไปทำงานที่คิตะคิวชูเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย เสียดายเหมือนกัน
แต่ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ได้เจอกันอีก ชีวิตนี้ยังอีกยาวไกลนัก
วันนี้ใช้บริการแมวดำมารับกระเป๋าเดินทางส่งไปที่สนามบิน เนื่องจากพรุ่งนี้จะออกไปที่อื่นทำให้การลากกระเป๋าไปเองไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เลยส่งกระเป๋าไปก่อนตัวซะเลย ส่วนเราก็ลากกระเป๋าใบเล็กตัวปลิวไปสนามบินในวันอาทิตย์
กระเป๋าเดินทางหนึ่งใบค่าบริการ 1,990 เยน
หลายคนไม่รู้ว่่ามีบริการนี้ ถ้าใครจะไปไทยแล้วกระเป๋าหนักเกินหรือว่าจะไปที่อื่นต่อก็ใช้บริการนี้กันได้นะก๊ะ
(ไม่ได้รับค่าโฆษณาแต่อย่างใด)
Monday, October 05, 2009
รวบรวมคำสอน..คำคมของท่าน ว. วุฒิชัย จากรายการวู้ดดี้ฯ
แขกรับเชิญที่มาออกคือ "พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี"
ดูจบแล้วรู้สึกว่าได้ข้อคิดมาก เลยอยากเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่าน และได้ชมกันค่ะ
**************************************
ที่มา http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8395705/A8395705.html
ต้องขอบคุณรายการวู้ดดี้มากๆ ที่ทำเทปนี้ออกมา
เข้ากับวันพระใหญ่ คือวันออกพรรษาพอดี
ส่วนตัวแล้ว เราเคารพและยึดแนวคำสอนของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
สะสมหนังสือธรรมะของท่านหลายเล่ม
คำตอบ คำสอน ของท่านทางรายการทำให้เราคิดอยากรวบรวม
สรุป "สาระ" และ "แก่น" พระพุทธศาสนา มาแบ่งปันเพื่อนๆทุกคน
อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดในทุกข้อ แต่เป็นใจความสำคัญที่ท่านเน้น
ในรายการค่ะ
(1) ว่าถึงเรื่องการดั้นด้นตามไหว้พระวัดดังๆ ของชาวพุทธบางกลุ่ม: ท่านสอนว่า "ไหว้พระตามแนวพุทธ ไหว้ด้วยใจ"
(2) เรื่องการฆ่าสัตว์เล็กๆ ที่เราไม่เองไม่รู้ตัว: ท่านสอนว่า " กรรมไม่มี บาปไม่มี หากไม่ได้เจตนา ให้ดูที่เจตนาเป็นสำคัญ"
(3) เรื่องการดูหมอ : ท่านกล่าวว่า " คนที่รู้จักตัวเอง ไม่จำเป็นต้องหาหมอดู.. ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว" ท่านไม่เชื่อเรื่องหมอดู แต่ท่านเชื่อ กฎแห่งกรรม กฎแห่งการกระทำ กฎที่บอกว่า ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับตัวเรา
(4) การห้อยพระ: ท่านกล่าวว่า "กฎแห่งกรรมของพระพุทธเจ้าก็เป็นหมัน เพราะง้างกับกฎแห่งกรรม " วู้ดดี้เลยโยงถึงเรื่อง ธุรกิจพิมพ์พระ ซึ่งท่านกล่าวว่า "บาปไม่บาปให้วัดที่เจตนา หากมีเจตนาเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ไม่บาป"
(5) การแก้กรรม: ท่านกล่าวว่า "คนไทยชอบแก้กรรม เหมือนเราถูกมัดไว้แล้วต้องมานั่งแก้ กรรมคือตัวความคิดของเรา ง่ายนิดเดียวคือการเปลี่ยนความคิด" และท่านเสริมว่า หลายสิ่งหลายอย่างพิสูจน์ไม่ได้ในห้องแล็บ ของพวกนี้ไม่ได้เห็นด้วยตา แต่เห็นด้วยปัญญา สิ่งสำคัญไม่ใช่โลกหน้ามีรึไม่มี แต่โลกนี้มีอยู่จริงและเราใช้ชีวิตอย่างไร
(6) พุทธพาณิชย์ : ท่านกล่าวว่า "ให้วัดที่เจตนา.. หากท่านพิมพ์คำเทศน์ คำสั่งสอนเป็นหนังสือ อ่านกันได้ทั่วโลก กำไรคือสติ ปัญญา การหายโง่ งมงาย ไม่ใช่พุทธพาณิชย์ หาวัดกำไรเป็นเม็ดเงินนั่นแหละคือพุทธพาณิชย์"
(7) เรื่องค่าตัวท่านในการนิมนต์เทศน์ : ท่านกล่าวว่า "ท่านเป็นพระ ไม่มีต้นสังกัด ไม่มีค่าย ท่านเป็นต้นสังกัดของตัวท่านเอง เวลานิมนต์อย่าถามเรท ถ้าท่านว่างและเห็นว่าเป็นประโยชน์ ท่านก็ไปให้" ท่านยังเสริมอีกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี นั่นก็บรรลุวัตถุประสงค์ของการมีวัด วัดอยู่ที่ใจคุณแล้ว
(8) คำถามจากผู้ชมทางบ้าน: (8.1) ถ้าเราไม่เคารพพระที่เราไม่ชอบ เพราะประพฤติมิชอบ บาปไหม ท่านตอบว่า "ถ้าไม่มีความดีให้เราเคารพ ก็ไม่ควรเคารพ ไม่เสียหายอะไร คนเราจะเคารพคนที่สูงกว่าเรา ดีกว่าเรา เป็นเรื่องปกติ ถ้าเราไปเคารพคนที่ไม่ควรเคารพ อันนี้บาป"
(8.2) ถ้านำแกนนำเหลือง-แดงมาให้ท่านเทศน์ ท่านจะเทศน์อย่างไร
ท่านฝากไว้สองข้อว่า 1. อย่าเห็นแก่ตัว จนไม่เห็นหัวประเทศไทย
2. ต้องยอมถอย เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้า
(9) คนเราจิตตก จะมีวิธีแก้อย่างไร: ท่านสอนว่า "จิตตก ก็ยกจิต ต้องออกจากสภาพแวดล้อมแบบนั้น หาหนังสือธรรมอ่าน.." ท่านยังเสริมถึงเรื่องกัลยาณมิตร คือเพื่อนแท้ ที่คนจิตตกควรมีและสร้างให้มีได้ ส่วนปาปะมิตรคือเพื่อนเลว ที่ดีงชีวิตเราให้ต่ำลง
(10) มาหาพระพุทธเจ้าอย่าขอ แต่บอกว่า พระพุทธองค์จะเป็นต้นแบบของเรา ท่านมีหน้าที่สร้างแรงบันดาลใจ พระพุทธศาสนาไม่ใช่ศาสนาแห่งการขอ เป็นศาสนาแห่งการลงมือทำ การลงมือทำเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
(11) บุคคลต้นแบบของท่าน ว. วุฒิชัย
(11.1) พระพุทธเจ้า
(11.2) ท่านพุทธทาสภิกขุ - เป็นแรงบันดาลใจในการคิดนอกกรอบ กล้าคิดกล้าทำ ยินดีที่จะพูดความจริงโดยไม่กลัวว่าตัวเองจะต้องตาย
(11.3) พระพรหมคุณาภรณ์ - มีความแม่นยำในพระธรรมวินัย ท่านเป็นพระที่ไม่ได้จบจากนอก แต่ท่านสามารถสอน ที่ ม. Harvard
(11.4) ท่านดาไล ลามะ - ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมดีเลิศ ท่านเป็นพระที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวโลก จนชาวโลกรู้สึกได้
(11.5) ท่านติช นัท ฮันท์ - พระชาวเวียดนาม
(12) พูดถึงกิเลสที่ทำให้เกิดความอยาก : ท่านกล่าวว่า "ความอยากมี 2 อย่าง หนึ่งอยากเพราะถูกกดดันด้วยตัวกิเลส และสอง อยากเพราะถูกผลักดันโดยปัญญา อย่างหลังเป็นความอยากที่ถูกต้อง
(13) เรื่องการระงับอารมณ์ทางเพศของพระ: ท่านกล่าวว่า ความสุขทางเพศรสเป็นความสุขขั้นต่ำ ของบันไดความสุข กามอารมณ์เกิดจากความคิด ถ้าเราไม่ต่อยอดความคิด ความรู้สึกทางกามอารมณ์ก็ไม่มีตัวตน ท่านอธิบายขั้นของความสุขไว้ว่า ปัญญาสุข คือความสุขจากการแสวงหาปัญญา สมาธิสุขคือความสุขจากการนั่งสมาธิ ทำจิตให้สงบ สารแห่งความสุขจะแผ่ไปทั่วร่าง และความสุขสุดยอดคือนิพพานสุข เป็นความสุขตลอดกาล เป็นความสุขที่ปราศจากกิเลสทั้งปวง
ขอ ความสุขทาง "ธรรม" จงบังเกิดแก่ผู้อ่านทุกท่านคะ
แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 04:08:39
แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 52 04:06:36
จากคุณ : หะ-เมียว
เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 03:50:03 [แก้ไข]
********************************************************
ชมคลิปวีดีโอได้จาก Youtube
ตอนที่ 1
http://www.youtube.com/watch?v=C-St7xTWuHI
ตอนที่ 2
http://www.youtube.com/watch?v=YE0NaiUDSLM
ตอนที่ 3
http://www.youtube.com/watch?v=lmqMFCa8xZs
ตอนที่ 4
http://www.youtube.com/watch?v=qT9LJKhEi9E
พาชมร้านทำลูกอม ที่สถานี Nakano
แต่วันนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องโน้สอุดม ฮ่าๆ
สถานที่ชมคือที่สถานี Nakano เริ่มแสดงตอนหนึ่งทุ่ม
ก่อนเวลาแสดงพี่ส้มเลยนัดไปเดินเล่นแถว Nakano กัน
เคยอ่านนิตยสารแล้วเจอว่าที่ Nakano เนี่ยมีร้านขายซอฟท์ครีมที่สูงมากมากกกก
ทั้งๆที่เมื่อก่อนอยู่ใกล้บ้านนิดเดียว แต่แทบจะไม่ได้แวะไปเลย 55555+
ตอนแรกเลยแวะกินไอติมสูงเกือบฟุต มีแปดรสกัน
ใครอยากไป ก็ให้ไปที่ตึก Nakano Broadway ชั้น B1 จ้า
http://www.bwy.jp/map.html
หลังจากนั้นก็ไปร้านทำลูกอมกัน ซึ่งร้านนี้เค้าทำเค้าตัดกันให้ดูสดๆเลย
ร้านชื่อ PAPABUBBLE
ข้างในร้านมีทำลูกอม ยืดกันสดๆเลยจริงๆ
ได้มาเป็นเส้นๆก่อน
แล้วก็ตัดเป็นเม็ดเล็กๆ
ผลิตภัณฑ์ที่ได้มา มีแบบบรรจุใส่ถุง
แล้วก็มีเป็นโหลแก้ว
หน้าร้านมีลูกอมรูปโทรศัพท์โชว์ไว้ด้วย
เข้าไปดูในเว็บมา จริงๆแล้วมีหลายสาขาทั่วโลกนะเนี่ย http://www.papabubble.com/
ใครอยากไปก็ที่นี่เลยค่ะ
papabubble パパブブレ
住所 東京都中野区新井1-15-13
電話 03-5343-1286
定休日 月曜日
営業時間 10:30~21:00(火曜~土曜) 10:30~19:00(日曜)
最寄駅 JR中央線中野駅
公式ホームページ www.papabubble.com
Thursday, October 01, 2009
Dear iPhone users, let's Ping!
**************************************
Ping! is an instant messenger exclusively for iPhone users
If you’ve ever been a blackberry user, you’ll get the gist of this immediately, think Blackberry Messenger but for the iPhone.
Ping! is a instant messaging client for the iPhone that looks and feels like the built in iPhone SMS client. It aims to provide free iPhone to iPhone (and iPod touch on wifi) messaging.
Once you’ve download the (currently free) app and selected a username, you can invite/find friends and family you know own an iPhone or iPod touch, and you’re ready to go.
Once you’ve started a conversation, the application works just like the SMS client except it’s free, instant and works internationally at no extra cost (aside from your international roaming costs that is). Whenever you receive a message you’ll receive a push notification and you can respond just as you would with SMS.
The UI is clean and simple, there are a few odd bugs here and there but it is the very first release so expect them to be cleared up soon.
Still not convinced? Here’s a demo from the guys iPhoneXpert. If you are, download the app here.
*************************************
เพื่อนๆถามรหัส Ping! ของโบว์ได้หลังไมค์นะก๊ะ
Yoroshiku!