มีีคนส่งเมลมาให้ ... คิดว่าส่วนใหญ่แล้วตรงกับตัวเอง
มีบางข้อเท่านั้นที่ไม่ค่อยตรง เช่น ไม่ค่อยเก็บอะไรมาคิดให้รกสมอง ฮ่าๆ
ตอนนี้สมองรกมาก หุหุ
ช่วยดูกันหน่อยว่ามันตรงกับโบว์ป่าว
*************************************
คนเกิดปีชวด
ปรับตัวได้เก่งในทุกสถานการณ์
คารมดี พูดจูงใจเก่งมาก
ไอ.คิว.เป็นเลิศ
รักใครเป็นทุ่มหมดใจหมดกระเป๋า
เห็นวันนี้แสนขยัน แต่พรุ่งนี้อาจนอนขี้เกียจทั้งวัน
เป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาด
มีความทะเยอทะยานสูง
เป็นนักสะสม
เป็นนักชอปปิ้ง ชอบของลดราคา
เพื่อนมาก ญาติเยอะ
ชอบพึ่งพาตนเอง
ไฮเปอร์จัด มาดนิ่ง แต่ไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย
ไม่ชอบความผูกพัน
เก็บความลับเก่ง
เก็บความรู้สึกก็เก่งนะ
เก็บเงินได้ ใช้เงินเป็น
แก้ปัญหาเก่งมาก
แต่แสดงออกทางอารมณ์ไม่เก่ง
ถือผลประโยชน์ตนเป็นสำคัญ
ขี้หวง ขี้หึง
ขี้บ่น ขี้ระแวง
ช่างติ ช่างวิจารณ์
ไม่ชอบเก็บอะไรมาคิดให้รกสมอง
บางครั้งก็เชื่อใจผู้อื่นง่ายเกินเหตุ
ชอบสังสรรค์บันเทิง
ถนัดดูแลงานด้านท่องเที่ยวบันเทิง
คิดฝันในเรื่องรักแบบซึ้งสุดใจ
เน้นความสบาย ไม่ชอบเรื่องซีเรียสใดๆ
ไม่ถนัดเรื่องละเอียดอ่อนนัก
Friday, September 26, 2008
Tuesday, September 23, 2008
D' Masiv - Diantara Kalian
kuakui ku sangat sangat menginginkanmu
tapi kini ku sadar ku diantara kalian
aku tak mengerti
ini semua harus terjadi
kuakui ku sangat sangat mengharapkanmu
tapi kini ku sadar ku tak akan bisa
aku tak mengerti
ini semua harus terjadi
lupakan aku kembali padanya
aku bukan siapa-siapa untukmu
kucintaimu tak berarti bahwa
ku harus memilikimu slamanya
tapi kini ku sadar ku diantara kalian
aku tak mengerti
ini semua harus terjadi
kuakui ku sangat sangat mengharapkanmu
tapi kini ku sadar ku tak akan bisa
aku tak mengerti
ini semua harus terjadi
lupakan aku kembali padanya
aku bukan siapa-siapa untukmu
kucintaimu tak berarti bahwa
ku harus memilikimu slamanya
Saturday, September 20, 2008
ความเปลี่ยนแปลง..
ไม่ได้กลับเมืองไทยมาหกเดือน....
แค่หกเดือนแค่นั้นเอง กลับมาคราวนี้เกิดอาการงงหลายอย่าง
ตอนคิดได้ว่าเออ ไม่มีเรื่องจะอัพ น่าจะมาอัพเรื่องนี้ก็ไม่ได้ไปถ่ายรูปมาประกอบเท่าไหร่ เลยมีแต่ตัวอักษรนะวันนี้ ฮาๆ
ปกติแล้วจะมีอารมณ์นี้บ่อยนะ ไม่กลับเมืองไทยครึ่งปี
แต่ไม่รู้สึกว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงจนตกใจมากมายขนาดนี้
ไปสยามเมื่อวานนี้นัดกินข้าวกับน้องริโกะ
เดินมาสยามแล้วก็คิดว่ากินอะไรกันดีน้ออออ
พอสิ้นคิดก็มักจะคิดถึงร้านประจำ คือ Iberry Kitchen
ที่ปกติไปกินบ่อยมากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก....
มาคราวนี้เดินไปถึง ... อ่าว มันหายไปไหนแล้วหว่า
คือร้านมันหายไปแล้วอ่ะ ใครที่เคยไปทาน Iberry Kitchen คงจะรู้ว่าร้านมันมีสองชั้น
ชั้นล่างขายไอติมของ Iberry ชั้นบนขายอาหารฝรั่ง ...
ตอนนี้เหลือแต่งข้างล่างละ กลายเป็น Iberry Cafe
แล้วก็กั้นตรงส่วนที่จะขึ้นไปข้างบนทำเป็นบันไดขึ้นไปร้านอื่น เหอๆ
คิดได้งั้นน้องริโกะ (ซึ่งไม่ค่อยได้กลับไทยเหมือนกัน) ก็บอกว่า เออ.. งั้นไปกินร้านสิ้นคิดหนูละกัน
คือ "ไอดินกลิ่นครก" ซอยเดียวกัน ... เดินไป เอ๊ะ ร้านหายไปอีกแล้ว!!!
อะไรกัน หกเดือนที่แล้วยังมากินอยู่เลยง่ะ
เลยไปจบที่ร้าน "จุฑารส" ที่ตอนนี้ renovate ร้านใหม่ บรรยากาศดีเชียว
มีโซฟาให้นั่ง มีระเบียงออกไปนั่งนอกร้าน ชั้นบนสุดก็เป็น outdoor น่ารักทีเดียว
แล้วราคาอาหารก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน เหอๆ... แพงขึ้นมาเลย
มีเอ๊ะอีกหลายอย่างในสยาม ...
คือมีการทุบๆสร้างตึกใหม่กันเยอะมาก จะเลี้ยวรถเข้าสยามเข้าไม่ถูกเลย ไม่คุ้นตา เหอๆ
นอกจากในสยามแล้ว ในจุฬาฯก็มีอะไรเปลี่ยนไปเยอะ
อันนี้สังเกตได้เพราะว่าไปจุฬ่าฯบ่อยมาก แล้วก็ยังใช่บริการรถป็อปเหมือนเคย
สิ่งแรกที่ตกใจคือ... ที่คณะเราเอง
งงค่ะ .. ศาลนี้โผล่มาได้อย่างไร
ปกติคณะเรามีศาลอยู่หนึ่งศาลคือ "ศาลเจ้าพ่อสิงห์ดำ" และ "ต้นไทร"
ถามไปถามมา อ๋อ.. คณะครบรอบ 60 ปี เลยสร้างศาลนี้ขึ้น
วันนี้ก็แวะไปไหว้มาเหมือนกัน
นอกจากนี้ยังมีคณะสถาปัตย์ มีป้ายคณะใหม่ สวยเชียว
ตึกใหม่คณะศิลปกรรมก็ใกล้เสร็จแล้ว
ตึกใหม่คณะอักษรก็กำลังทำอยู่ดูยิ่งใหญ่มาก
จามจุรีสแควร์เปิดแล้ว
สามย่านใหม่ยังไม่ได้ไปเลย โว้วววว
ไม่น่าเชื่อ ผ่านไปหกเดือนอะไรๆจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดนี้ ...
แล้วใจคนมันจะไม่เปลี่ยนไปได้อย่างไรน้อออออ
(จบแบบนี้อีกละ หุหุ)
แค่หกเดือนแค่นั้นเอง กลับมาคราวนี้เกิดอาการงงหลายอย่าง
ตอนคิดได้ว่าเออ ไม่มีเรื่องจะอัพ น่าจะมาอัพเรื่องนี้ก็ไม่ได้ไปถ่ายรูปมาประกอบเท่าไหร่ เลยมีแต่ตัวอักษรนะวันนี้ ฮาๆ
ปกติแล้วจะมีอารมณ์นี้บ่อยนะ ไม่กลับเมืองไทยครึ่งปี
แต่ไม่รู้สึกว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงจนตกใจมากมายขนาดนี้
ไปสยามเมื่อวานนี้นัดกินข้าวกับน้องริโกะ
เดินมาสยามแล้วก็คิดว่ากินอะไรกันดีน้ออออ
พอสิ้นคิดก็มักจะคิดถึงร้านประจำ คือ Iberry Kitchen
ที่ปกติไปกินบ่อยมากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก....
มาคราวนี้เดินไปถึง ... อ่าว มันหายไปไหนแล้วหว่า
คือร้านมันหายไปแล้วอ่ะ ใครที่เคยไปทาน Iberry Kitchen คงจะรู้ว่าร้านมันมีสองชั้น
ชั้นล่างขายไอติมของ Iberry ชั้นบนขายอาหารฝรั่ง ...
ตอนนี้เหลือแต่งข้างล่างละ กลายเป็น Iberry Cafe
แล้วก็กั้นตรงส่วนที่จะขึ้นไปข้างบนทำเป็นบันไดขึ้นไปร้านอื่น เหอๆ
คิดได้งั้นน้องริโกะ (ซึ่งไม่ค่อยได้กลับไทยเหมือนกัน) ก็บอกว่า เออ.. งั้นไปกินร้านสิ้นคิดหนูละกัน
คือ "ไอดินกลิ่นครก" ซอยเดียวกัน ... เดินไป เอ๊ะ ร้านหายไปอีกแล้ว!!!
อะไรกัน หกเดือนที่แล้วยังมากินอยู่เลยง่ะ
เลยไปจบที่ร้าน "จุฑารส" ที่ตอนนี้ renovate ร้านใหม่ บรรยากาศดีเชียว
มีโซฟาให้นั่ง มีระเบียงออกไปนั่งนอกร้าน ชั้นบนสุดก็เป็น outdoor น่ารักทีเดียว
แล้วราคาอาหารก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน เหอๆ... แพงขึ้นมาเลย
มีเอ๊ะอีกหลายอย่างในสยาม ...
คือมีการทุบๆสร้างตึกใหม่กันเยอะมาก จะเลี้ยวรถเข้าสยามเข้าไม่ถูกเลย ไม่คุ้นตา เหอๆ
นอกจากในสยามแล้ว ในจุฬาฯก็มีอะไรเปลี่ยนไปเยอะ
อันนี้สังเกตได้เพราะว่าไปจุฬ่าฯบ่อยมาก แล้วก็ยังใช่บริการรถป็อปเหมือนเคย
สิ่งแรกที่ตกใจคือ... ที่คณะเราเอง
งงค่ะ .. ศาลนี้โผล่มาได้อย่างไร
ปกติคณะเรามีศาลอยู่หนึ่งศาลคือ "ศาลเจ้าพ่อสิงห์ดำ" และ "ต้นไทร"
ถามไปถามมา อ๋อ.. คณะครบรอบ 60 ปี เลยสร้างศาลนี้ขึ้น
วันนี้ก็แวะไปไหว้มาเหมือนกัน
นอกจากนี้ยังมีคณะสถาปัตย์ มีป้ายคณะใหม่ สวยเชียว
ตึกใหม่คณะศิลปกรรมก็ใกล้เสร็จแล้ว
ตึกใหม่คณะอักษรก็กำลังทำอยู่ดูยิ่งใหญ่มาก
จามจุรีสแควร์เปิดแล้ว
สามย่านใหม่ยังไม่ได้ไปเลย โว้วววว
ไม่น่าเชื่อ ผ่านไปหกเดือนอะไรๆจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดนี้ ...
แล้วใจคนมันจะไม่เปลี่ยนไปได้อย่างไรน้อออออ
(จบแบบนี้อีกละ หุหุ)
Sunday, September 07, 2008
Well, yeah .. It's Bangkok!
One picture explains everything...
วันก่อนไปตลาดน้ำอัมพวา...
พอดีว่าวันนั้นฝนตกเหมือนฟ้าถล่ม ดีนะตอนที่อยู่ตลาดฝนไม่ตก ออกมาได้แป๊บนึงก็สาดลงมาเลยค่ะ
ฝนตก ตามด้วยอุบัติเหตุ ระหว่างทางกลับเข้า กทม. มีรถชนติดๆกันเกือบยี่สิบคัน (ไม่ได้เว่อร์นะจริงๆ)
รถบางคันโดนรถคันข้างหน้าปีนซะกระโปรงเปิด แถมข้างหลังโดนชนหลังยู่อีก น่าสงสารเจ้าของรถเป็นที่สุด
แล้วก็ไม่เข้าใจ ... ว่าทำไมต้องจอดรถดูกัน -"-
ออกจากอัมพวาห้าโมงครึ่ง ถึงสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชตอนทุ่มครึ่ง
.... หลังจากนั้นนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีสุรศักดิ์รอพ่อมารับ (รูปนี้ได้จากบนสถานีสุรศักดิ์)
พอมารับตอนสองทุ่มครึ่ง ถึงบ้านที่พุทธมณฑลสายสามตอนสี่ทุ่มสิบห้า -"-
นี่แหละชีวิตในเมืองกรุง(เทพมหานคร)ของแท้
Thursday, September 04, 2008
รักในวัยเรียน..
รักในวัยเรียน เหมือนเสี้ยนหนาม
ตื่นก็หวาม หลับก็หวิว ใจปลิวไหว
สมาธิสั้น ขวัญพินาศ อยู่ร่ำไป
กระเจิงใจ กระเจิดขวัญ น่าพลั่นพรึง
ที่มา คัทเอ้าท์ หน้า คณะศิลปกรรมฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2540
(โพสโดยคุณ "เด็กแสบ" ที่ห้อง @Japan ใน pantip.com)
....................
ไม่มีอะไรหรอกค่ะพอดีอ่านเจอแล้วชอบก็เลยอยากเอามาโพสให้อ่านกัน
ส่วนตัวตอนนี้สบายดี ... ออกไปไหนไม่ค่อยได้เพราะขับรถไม่เป็น
งานไม่ค่อยเดินเพราะไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน กลับมาเก็บข้อมูลนี่วุ่นวายกว่าที่คิด
เพราะบางอย่างก็ไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะไม่ได้ข้อมูล ตอนนี้เลยต้องมานั่งวางแผนวิจัยใหม่
สถานการณ์การเมืองวุ่นวาย ชีวิตก็วุ่นวายเช่นกัน...
ว่าแต่ ... แล้วเมื่อไหร่เราจะพ้นวัยเรียน ผ่านมา 24 ปีแล้วนะ -"-
ตื่นก็หวาม หลับก็หวิว ใจปลิวไหว
สมาธิสั้น ขวัญพินาศ อยู่ร่ำไป
กระเจิงใจ กระเจิดขวัญ น่าพลั่นพรึง
ที่มา คัทเอ้าท์ หน้า คณะศิลปกรรมฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2540
(โพสโดยคุณ "เด็กแสบ" ที่ห้อง @Japan ใน pantip.com)
....................
ไม่มีอะไรหรอกค่ะพอดีอ่านเจอแล้วชอบก็เลยอยากเอามาโพสให้อ่านกัน
ส่วนตัวตอนนี้สบายดี ... ออกไปไหนไม่ค่อยได้เพราะขับรถไม่เป็น
งานไม่ค่อยเดินเพราะไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน กลับมาเก็บข้อมูลนี่วุ่นวายกว่าที่คิด
เพราะบางอย่างก็ไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะไม่ได้ข้อมูล ตอนนี้เลยต้องมานั่งวางแผนวิจัยใหม่
สถานการณ์การเมืองวุ่นวาย ชีวิตก็วุ่นวายเช่นกัน...
ว่าแต่ ... แล้วเมื่อไหร่เราจะพ้นวัยเรียน ผ่านมา 24 ปีแล้วนะ -"-
Subscribe to:
Posts (Atom)