เมื่อปลายปีที่แล้วพาไปเที่ยว Disney Sea มาแล้ว ในตอนกลับเป็นเด็กอีกครั้งที่ Tokyo DIsneySea
แล้วเรื่องอะไรจะไปไม่ครบใช่ไหม ฮ่าๆ ...
ลมหนาวยังไม่ทันหมดไป ประจวบเหมาะพี่แก๊ปมาโตเกียวกับครอบครัว
ได้ฤกษ์ผูกเชือกรองเท้าไปเที่ยว Tokyo Disney Land กันต่อเลย เย้ๆ
ถึงแล้วอย่างรวดเร็ว...
มาคราวนี้โชคดีเป็นช่วงปิืดเทอม ใช้บัตรนักเรียนลดราคาได้อีกตะหากคนละ 1300 เยน
ถึงแม้จะเรียนปริญญาโท ปริญญาเอกกันแล้ว ... ฮ่าๆ เค้าไม่ได้เขียนไว้หนิว่าเรียนระดับไหน
หน้าตาเด็กๆเหมือนกันเข้าได้ๆๆๆ อิอิ
เจอสโนวไวท์ต้อนรับอยู่ข้างหน้าเลย... ดูเธอทำท่า
สิ่งที่คู่กับ Disney Land ทั่วโลก ... ปราสาทซินเดอเรลล่า
เข้าไปก็เล่นเจ้านี่เลย ... ทุกคนแนะนำ
ดูคนญี่ปุ่นนั่งต่อแถวรอดูพาเหรด.. เรียบร้อยขนาด
ต่อด้วยไปยิงปืนเลเซอร์ที่นี่
เข้าไปเจอ Buzz Lightyear ต้อนรับอยู่
ขอประจานตัวเอง... คนอื่นยิงกันได้เป็นหมืนๆ ขจีภรณ์ได้สามพันหกค่ะ -_-"
กลับไทยไปฝึกยิงปืนลมตามงานวัดก่อนดีกว่า เหอๆ
พาเหรดแห่งเทพนิยายมากๆ
โฉมหน้าผู้เข้าร่วมโครงการ ...
พี่แอน พี่กอล์ฟ พี่แก๊ป เราเอง
รถไฟเหาะ ... น่ากลัวจังเยยยย
อันนี้ทุกคนก็แนะนำมา บ้านหมีพูห์
ใครไม่เคยเห็นหมีพูห์เป็นวิญญาณออกจากร่างแนะนำให้ไปดู เหอๆ
ช่วงนี้มี event ชื่อ Cinderellabration เป็นการจัดประดับไฟตกแต่งรอบๆปราสาทซินเดอเรลล่า
มีรูปปั้นในเทพนิยายตั้งอยู่รอบๆด้วย
ปิืดท้ายด้วยการแสดง finalle ของเหล่าตัวละครดิสนีย์ ... ไม่สามารถเก็บรูปให้ดูได้ เพราะว่ามัวแต่กินและหนาว พอออกมาก็จะเริ่มแล้ว คนเลยเยอะแยะบังไปหมดเยยยย
ได้รูปซินเดอเรลล่านั่งรถผ่านมามาฝากหนึ่งรูป
สงสัยไหม .. ทำไมไม่นั่งรถฟักทอง หุหุ
**************************************************
ไปมาแล้วทั้งสองที่ ชอบ DisneySea มากกว่า ถึงแม้ DisneyLand จะมีเครื่องเล่นเยอะกว่า
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นแล้วแต่คนชอบ ... ไปมันทั้งสองที่เลยละกัน หุหุ
ปล. ใครจะชวนไปอีกขอคิดดูก่อนนะ มันแพงงงงงงงงงงงงง เฮือก ... จน
Friday, February 29, 2008
Tuesday, February 26, 2008
เอาใจคอการ์ตูนที่ Ghibli Museum
ดองไว้นานมากแล้ว
จริงๆแล้วไปมาตั้งแต่ตอนต้นเดือน เหอๆ
หลายๆคนคงได้ดูหนังการ์ตูนของค่าย Studio Ghibli กันมาแล้ว เช่น Spirited Away ที่ได้รางวัล Oscar ไปในปี 2001
จริงๆแล้่วค่ายนี้ทำหนังการ์ตูนออกมาหลายเรื่องมาก ทั้งเรื่องสั้นเรื่องยาว ...
ดูรายละเอียดกันได้ที่วิกิพีเดีย อิอิ http://en.wikipedia.org/wiki/Studio_Ghibli
รู้มาตั้งนานแล้วว่าพิพิธภัณฑ์ของค่ายนี้อยู่แถวบ้านเราเอง..
แต่เนื่องจากว่ามันต้องจองคิวนานเลยไม่ได้ไปซะที
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาฤกษ์งามยามดี แถมมีคนไปด้วยอีกตะหากเลยได้โอกาสพาทุกคนไปชมด้วยเลย ^^
ขั้นแรกต้องขึ้นรถเมล์จากสถานี Mitaka ไปกันก่อน
รถเมล์หน้าตาน่าเอ็นดู
แต่มีข่าวร้ายมาบอก...
พิพิธภัณฑ์นี้ห้ามถ่ายรูปข้างใน เลยแทบไม่ได้รูปไรมาเลย ฮ่าๆๆ
รู้สึกเสียเที่ยวกันมั้ยกับการมาอ่าน entry นี้ ฮ่าๆๆๆ
เอารูปเท่าที่มีไปดูแล้วกัน
อันนี้จริงๆอยู่ข้างในแอบถ่ายมา หุหุ น่ารักดี
เจ้าตัวใหญ่นี่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างบนพิพิธภัณฑ์
มีคาเฟ่เล็กๆน่ารักอยู่ด้วยในพิพิธภัณฑ์
หมดแล้ว เหอๆๆๆ....
ข้างในก็น่ารักดีนะ แต่เล็กไปหน่อย เข้าไปดูเดินวนไปวนมาไม่ถึงสองชั่วโมงก็หมดแล้ว
แต่ก็คุ้มกับค่าตั๋วพันเยนนะ
ใครเป็นแฟน Studio Ghibli อย่าพลาดกันนะจ๊ะ
อ่อ.. จองตั๋วกันได้ที่เว็บนี้นะจ๊ะ http://www.ghibli-museum.jp/
จริงๆแล้วไปมาตั้งแต่ตอนต้นเดือน เหอๆ
หลายๆคนคงได้ดูหนังการ์ตูนของค่าย Studio Ghibli กันมาแล้ว เช่น Spirited Away ที่ได้รางวัล Oscar ไปในปี 2001
จริงๆแล้่วค่ายนี้ทำหนังการ์ตูนออกมาหลายเรื่องมาก ทั้งเรื่องสั้นเรื่องยาว ...
ดูรายละเอียดกันได้ที่วิกิพีเดีย อิอิ http://en.wikipedia.org/wiki/Studio_Ghibli
รู้มาตั้งนานแล้วว่าพิพิธภัณฑ์ของค่ายนี้อยู่แถวบ้านเราเอง..
แต่เนื่องจากว่ามันต้องจองคิวนานเลยไม่ได้ไปซะที
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาฤกษ์งามยามดี แถมมีคนไปด้วยอีกตะหากเลยได้โอกาสพาทุกคนไปชมด้วยเลย ^^
ขั้นแรกต้องขึ้นรถเมล์จากสถานี Mitaka ไปกันก่อน
รถเมล์หน้าตาน่าเอ็นดู
แต่มีข่าวร้ายมาบอก...
พิพิธภัณฑ์นี้ห้ามถ่ายรูปข้างใน เลยแทบไม่ได้รูปไรมาเลย ฮ่าๆๆ
รู้สึกเสียเที่ยวกันมั้ยกับการมาอ่าน entry นี้ ฮ่าๆๆๆ
เอารูปเท่าที่มีไปดูแล้วกัน
อันนี้จริงๆอยู่ข้างในแอบถ่ายมา หุหุ น่ารักดี
เจ้าตัวใหญ่นี่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างบนพิพิธภัณฑ์
มีคาเฟ่เล็กๆน่ารักอยู่ด้วยในพิพิธภัณฑ์
หมดแล้ว เหอๆๆๆ....
ข้างในก็น่ารักดีนะ แต่เล็กไปหน่อย เข้าไปดูเดินวนไปวนมาไม่ถึงสองชั่วโมงก็หมดแล้ว
แต่ก็คุ้มกับค่าตั๋วพันเยนนะ
ใครเป็นแฟน Studio Ghibli อย่าพลาดกันนะจ๊ะ
อ่อ.. จองตั๋วกันได้ที่เว็บนี้นะจ๊ะ http://www.ghibli-museum.jp/
Sunday, February 24, 2008
Tuesday, February 19, 2008
ขอหยุดเขียนบล็อคสักพัก..
ขอโทษสำหรับทุกคนที่ติดตามอยู่ ทั้งที่แสดงตัวและที่แอบมาอ่านเงียบๆ
ขอตัวหยุดเขียนบล็อคไปสักพักนะคะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะกลับมาเมื่อไหร่
ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาตลอดค่ะ
ขอตัวหยุดเขียนบล็อคไปสักพักนะคะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะกลับมาเมื่อไหร่
ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาตลอดค่ะ
Thursday, February 14, 2008
My Valentine ^^
White Rose;
Purity, Innocence, Silence, Secrecy, Reverence, Humility, Youthfulness,
"I am worthy of you", Heavenly
Wednesday, February 13, 2008
อย่านอนหลับทับสิทธิกันนะคะ (ภาคสอง)
Sunday, February 10, 2008
ส้มที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น
(คนที่เอามาให้บอกมาเป็นยังงั้นนะ...)
หลังจากได้ส้มมาสิบกิโลเมื่อคราวที่แล้ว คราวนี้เหลือแ่ค่ห้าลูก พร้อมกับคำโฆษณาที่ว่าส้มที่เห็นเนี่ยอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นแล้วนะ
ไม่สามารถอธิบายได้มากกว่านี้เพราะไม่มีความรู้เรื่องส้มมากนะ ... รู้แต่ว่าไปเห็นหน้าตาแบบเดียวกันที่ขายอยู่แุถวบ้าน ลูกละประมาณสามร้อยกว่าเยนได้!
อิจฉาอ่ะดิ อิอิ
หลังจากได้ส้มมาสิบกิโลเมื่อคราวที่แล้ว คราวนี้เหลือแ่ค่ห้าลูก พร้อมกับคำโฆษณาที่ว่าส้มที่เห็นเนี่ยอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นแล้วนะ
ไม่สามารถอธิบายได้มากกว่านี้เพราะไม่มีความรู้เรื่องส้มมากนะ ... รู้แต่ว่าไปเห็นหน้าตาแบบเดียวกันที่ขายอยู่แุถวบ้าน ลูกละประมาณสามร้อยกว่าเยนได้!
อิจฉาอ่ะดิ อิอิ
Wednesday, February 06, 2008
บอลไทย..ใจเกินร้อย
วันนี้พี่ๆนักเรียนไทยจำนวนหนึ่ง ... มากเหมือนกัน
เดินทางท่ามกลางความหนาวและหิมะที่ตกโหมกระหน่ำ
ไปยังจังหวัดไซตามะ ที่สนาม Saitama Stadium
ทุกคนมีจุดหมายเดียวกันคือไปเชียร์ทีมชาติไทย
ถึงแม้บอลจะแพ้ แต่ขอบอกว่าทั้งนักเตะไทยและกองเชียร์ใจเกินร้อยทุกคน
นักบอลจากประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรอย่างเรากลับวิ่งฝ่าหิมะที่ตกอย่างหนักในสนามอย่างไม่หวั่นไหว
กองเชียร์ถูกล้อมรอบด้วยกองเชียร์ทีมชาติญี่ปุ่นรอบด้าน แต่ยังส่งเสียงเชียร์ไม่หยุดยั้ง
ขอบคุณภาพบรรยากาศสดๆจากสนามจากพี่จุ๊บค่ะ
ทำเอาคนนั่งเชียร์อยู่หน้าทีวีที่บ้านอดเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้ไปอยู่ในบรรยากาศแบบนั้น
คราวหน้าเมื่อไหร่ ... ไม่พลาดแน่นอนค่าาาาาาาาาา
(อย่าลืมชวนอีกนะ ... คราวนี้โทษทีง่ะ)
เดินทางท่ามกลางความหนาวและหิมะที่ตกโหมกระหน่ำ
ไปยังจังหวัดไซตามะ ที่สนาม Saitama Stadium
ทุกคนมีจุดหมายเดียวกันคือไปเชียร์ทีมชาติไทย
ถึงแม้บอลจะแพ้ แต่ขอบอกว่าทั้งนักเตะไทยและกองเชียร์ใจเกินร้อยทุกคน
นักบอลจากประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรอย่างเรากลับวิ่งฝ่าหิมะที่ตกอย่างหนักในสนามอย่างไม่หวั่นไหว
กองเชียร์ถูกล้อมรอบด้วยกองเชียร์ทีมชาติญี่ปุ่นรอบด้าน แต่ยังส่งเสียงเชียร์ไม่หยุดยั้ง
ขอบคุณภาพบรรยากาศสดๆจากสนามจากพี่จุ๊บค่ะ
ทำเอาคนนั่งเชียร์อยู่หน้าทีวีที่บ้านอดเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้ไปอยู่ในบรรยากาศแบบนั้น
คราวหน้าเมื่อไหร่ ... ไม่พลาดแน่นอนค่าาาาาาาาาา
(อย่าลืมชวนอีกนะ ... คราวนี้โทษทีง่ะ)
Sunday, February 03, 2008
White Setsubun
วันน (เมื่อวานนี้แ้ละกัน) เทศกาล Setsubun ค่ะ
คิดไว้นานแล้วว่าจะไปงาน แถมวันนี้โชคดีตื่นเช้ามาโตเกียวมีสภาพแบบนี้
ตื่นเต้นๆ กะว่าวันนี้ได้ไปถ่ายรูปยักษ์จมหิมะแน่นอน อิอิ
สงสัยกันไหมว่าอะไรคือเทศกาล Setsubun???
เคยเขียนเอาไว้นานแล้วสมัยอยู่โอซาก้า ลองเข้าไปอ่านกันดู ไปปาถั่วกันเถอะ..ในเทศกาลเซ็ทสึบุง (節分)
สำหรับคนที่ขี้เกียจเข้าไปอ่าน (แต่เข้าไปเหอะ เหอๆ) เอามาแปะให้อ่านกันอีกทีละกัน
ในญี่ปุ่น "เซ็ทสึบุง" คือวันแห่งการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่
คำว่า "เซ็นสึบุง" ตามความหมายแล้วแปลว่า การแบ่งฤดูกาล
(เซ็ทสึ 節 = ฤดูกาล, บุง 分 = แบ่ง)
แต่ตามที่จริงแล้ว จะหมายถึงการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ตามปฎิทินจันทรคติ
โดยกำหนดวันตรงตัวไว้ คือวันที่ 3 กุมภาพันธ์
(เค้าว่ากันว่าวันนี้เป็นการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ แต่ทำไมหิมะยังตกอยู่
ไม่เข้าจายยยยย)
เทศกาลเซ็ทสึบุงนี้ตามประเพณีแล้ว แต่ละบ้านจะออกมานอกบ้าน
และปาถั่ว พร้อมกับพูดว่า
"Oni wa soto! Fuku wa uchi!" (鬼は外! 福は内!)
แปลว่า "ยักษ์จงออกไป โชคดีจงเข้ามา"
ถั่วนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ของบ้าน
โอเคเกริ่นกันเสร็จแล้ว พาไปชมบรรยากาศกันดีกว่า
ออกจากบ้านเจอหิมะขาวโพลน ... ไหนบอกใบไม้ผลิ -_-"
ทางเดินแถวโรงเรียน ขาวไปหมด
พนักงานร้านราเม็งยังมีกะใจออกมาปั้นตุ๊กตาหิมะ
ถึงแล้ววัดข้างๆมหา'ลัยวาเซดะเลย ชื่อ Anahachiiman jinja(穴八幡神社)
หน้าวัดมีเซียมซีตามวันเกิดราคาร้อยเยน ไปจับมาเหมือนกัน แต่อ่านไม่่ค่อยออก แหะๆ
เข้ามาในวัด ขาวๆ
คนเข้าไปขอพร
ต่อแถวไหว้พระทำบุญ
แอบถ่ายพี่ป็อปกะพี่มานิต อิอิ
กับพี่เค้กที่แผงลอยขายอาหาร
โอโคโนมิยากิ น่ากินมั่กๆ
..................
อ่าว... แล้วไหนอ่ะยักษ์?????
เออนั่นดิ... กะว่าจะไปงานเซ็ทสึบุง แล้วไม่เห็นมียักษ์เลยยยยยยยย
สรุปกันว่า .. ถ้าไม่ไปผิดเวลาก็วัดนี้ไม่จัด เหอๆ
ซวยไป กะว่าจะเอาบรรยากาศมาฝาก...
คลิ๊กไปดูที่เคยไปแล้วเมื่อสองปีที่แล้วละกันนะ เหอๆๆๆๆ
ใครขี้เกียจขึ้นไปดู เอาลิงค์มาแปะอีกรอบ เหอๆ
ไปปาถั่วกันเถอะ..ในเทศกาลเซ็ทสึบุง (節分)
คิดไว้นานแล้วว่าจะไปงาน แถมวันนี้โชคดีตื่นเช้ามาโตเกียวมีสภาพแบบนี้
ตื่นเต้นๆ กะว่าวันนี้ได้ไปถ่ายรูปยักษ์จมหิมะแน่นอน อิอิ
สงสัยกันไหมว่าอะไรคือเทศกาล Setsubun???
เคยเขียนเอาไว้นานแล้วสมัยอยู่โอซาก้า ลองเข้าไปอ่านกันดู ไปปาถั่วกันเถอะ..ในเทศกาลเซ็ทสึบุง (節分)
สำหรับคนที่ขี้เกียจเข้าไปอ่าน (แต่เข้าไปเหอะ เหอๆ) เอามาแปะให้อ่านกันอีกทีละกัน
ในญี่ปุ่น "เซ็ทสึบุง" คือวันแห่งการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่
คำว่า "เซ็นสึบุง" ตามความหมายแล้วแปลว่า การแบ่งฤดูกาล
(เซ็ทสึ 節 = ฤดูกาล, บุง 分 = แบ่ง)
แต่ตามที่จริงแล้ว จะหมายถึงการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ตามปฎิทินจันทรคติ
โดยกำหนดวันตรงตัวไว้ คือวันที่ 3 กุมภาพันธ์
(เค้าว่ากันว่าวันนี้เป็นการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ แต่ทำไมหิมะยังตกอยู่
ไม่เข้าจายยยยย)
เทศกาลเซ็ทสึบุงนี้ตามประเพณีแล้ว แต่ละบ้านจะออกมานอกบ้าน
และปาถั่ว พร้อมกับพูดว่า
"Oni wa soto! Fuku wa uchi!" (鬼は外! 福は内!)
แปลว่า "ยักษ์จงออกไป โชคดีจงเข้ามา"
ถั่วนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ของบ้าน
โอเคเกริ่นกันเสร็จแล้ว พาไปชมบรรยากาศกันดีกว่า
ออกจากบ้านเจอหิมะขาวโพลน ... ไหนบอกใบไม้ผลิ -_-"
ทางเดินแถวโรงเรียน ขาวไปหมด
พนักงานร้านราเม็งยังมีกะใจออกมาปั้นตุ๊กตาหิมะ
ถึงแล้ววัดข้างๆมหา'ลัยวาเซดะเลย ชื่อ Anahachiiman jinja(穴八幡神社)
หน้าวัดมีเซียมซีตามวันเกิดราคาร้อยเยน ไปจับมาเหมือนกัน แต่อ่านไม่่ค่อยออก แหะๆ
เข้ามาในวัด ขาวๆ
คนเข้าไปขอพร
ต่อแถวไหว้พระทำบุญ
แอบถ่ายพี่ป็อปกะพี่มานิต อิอิ
กับพี่เค้กที่แผงลอยขายอาหาร
โอโคโนมิยากิ น่ากินมั่กๆ
..................
อ่าว... แล้วไหนอ่ะยักษ์?????
เออนั่นดิ... กะว่าจะไปงานเซ็ทสึบุง แล้วไม่เห็นมียักษ์เลยยยยยยยย
สรุปกันว่า .. ถ้าไม่ไปผิดเวลาก็วัดนี้ไม่จัด เหอๆ
ซวยไป กะว่าจะเอาบรรยากาศมาฝาก...
คลิ๊กไปดูที่เคยไปแล้วเมื่อสองปีที่แล้วละกันนะ เหอๆๆๆๆ
ใครขี้เกียจขึ้นไปดู เอาลิงค์มาแปะอีกรอบ เหอๆ
ไปปาถั่วกันเถอะ..ในเทศกาลเซ็ทสึบุง (節分)
Subscribe to:
Posts (Atom)