ลาแล้วจามจุรี ที่ เตือนใจ
เสียดายที่จากไป เคยอยู่ใกล้ ทุกสมัยมั่น
เจ้าเอยเคยชิดติดพัน ต้องลาโศกศัลย์เศร้าใจ
นับแต่วันนี้ต่อไป ลับลา จะห่างไกล
เหมือนดัง จะขาดใจ คร่ำครวญหวนไห้ ก็ไม่คืนมา
....ลาแล้วจามจุรี ที่ เคยเห็น
มิตรดีที่เจ้าเป็น ได้ร่มเย็น ทุกเสมอหน้า
จากไปใจหายจากลา โอ้ใครจะมาปลอบใจ
มิใช่จะร้างห่างไกล ถึงตัว จะจากไป
สัมพันธ์ ทางจิตใจ จะไกลหรือใกล้ ใจอยู่ด้วยเอย...................................................................................
คุณเคยมีความทรงจำเกี่ยวกับอะไรบางอย่างที่พอนึกถึงที่ไรก็มักจะมีภาพของมันตั้งแต่เริ่มต้นกันบ้างไหมคะ
ความทรงจำของเราเกี่ยวกับจุฬาฯตั้งแต่แรกเริ่มรู้จักมันยังเป็นภาพที่เหมือนกับภาพยนตร์ ที่พอนึกถึงทีไรก็เหมือนกับว่าไปหยิบดีวีดีขึ้นมานั่งดูอีกครั้งนึง ที่ระบุว่าเป็นดีวีดีก็เพราะตั้งใจจะบอกว่ามันเป็นภาพที่มีคุฯภาพและยังชัดแจ่มอยู่เหมือนเดิม ถ้าเป็นวีดีโออาจจะมียืดยานตามกาลเวลาได้เหมือนกันนะ ฮาฮา
ยังจำสมัยประถมที่ตอนนั้นต้องพิมพ์รายงานส่งครูโดยใช้โปรแกรม CW (CU Writer) ได้อยู่เลย เวลาเปิดโปรแกรมขึ้นมาที่ไรจะต้องเห็นภาพหน้าจอสีดำๆ ตัวหนังสือเขียวๆ พร้อมกับมีดนตรี midi เพลงมหาจุฬาลงกรณ์ให้ฟังทุกครั้ง
ตอน ม.5 จำได้ว่าตอนนั้นไปงาน Singin' ของคณะแพทย์ที่หอประชุมจุฬาฯ เพราะพี่ชายเข้ารอบ ตอนปิดงานได้ฟังเสียงทุกคนร่วมร้องเพลงมหาจุฬาลงกรณ์แล้วรู้สึกซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูก สัญญากับตัวเองไว้ตั้งแต่วันนั้นว่าเราจะต้องเข้ามาร้องเพลงนี้อย่างที่พี่ๆทุกคนตอนนั้นได้บ้าง
ตอน ม.6 หลังจากได้รับรหัสประจำตัวสอบเอ็นท์แล้ว เรากับเพื่อนอีกสองคน (กวาง และมด) วิ่งไปจุฬาฯ พร้อมกับกำกระดาษใบเล็กๆคนละหนึ่งใบ เขียนชื่อนามสกุล และรหัสประจำตัวสอบเอาไว้ และเอากระดาษใบนั้นไปฝังไว้ที่ต้นตามตุรีหลังพระบรมรูปสองรัชกาล ตามคำบอกของครูลิลลี่ (ลิลลี่นั้นแหละที่สอนภาษาไทยที่สยามน่ะ แกบอกมาว่าตอนแกจะเอ็นท์แกทำแบบนี้) หลังจากนั้นเรา กวาง และมดก็ได้มาอยู่ในรั้วจามจุรีจริงๆทั้งสามคน .... วิธีการนี้ไม่หวงนะ น้องๆที่จะเอ็นท์คนไหนจะเอาไปลองทำดูก็ได้ เหอๆ
จำวันที่นั่งอยู่หน้าคอมในวันที่ประกาศผลเอ็นท์ได้ วันนั้นอยู่บ้านใส่ชุดอยู่บ้านเก่าๆตัวนึง และกำลังหงุดหงิดที่เว็บล่มแล้วเข้าไปเช็คผลเอ็นท์ของตัวเองไม่ได้ซะที หลังจากพยายามอยู่สักพัก ชื่อของตัวเอง รหัส และคำว่า คณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชีวิตนิสิตจุฬาฯ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ตลอดเวลาสี่ปีเต็ม (ไม่นับอีกหนึ่งปีที่ไปอยู่ญี่ปุ่น) จุฬาฯ ได้ให้อะไรให้กับเราหลายๆอย่าง และเราก็ยังได้พบเจอกับเหตุการณ์ทั้งดีและร้าย ประสบการณ์ที่พบเจอเหล่านั้นเราเชื่อว่าเราอาจจะหาไม่ได้ที่ไหน ทั้งผู้คน เวลา สถานที่ ที่ประจวบเหมาะกันพอดีให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆรอบๆตัว และสอนให้เราเรียนรู้ในการใช้ชีวิต
เราจะไม่เป็นเราในวันนี้ ถ้าไม่ได้ผ่านชีวิตสี่ปีในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และคงไม่ได้ผูกพันกันเช่นนี้
......................................................................................
เมื่อเสียงเพลงประสานเสียงเพลง
"ลาแล้วจามจุรี" ในหอประชุมใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจบลง ก็รำลึกได้ว่านี่คือเวลาแล้วที่ต้องจากลา
"จะขอรักษาความเป็นบัณฑิต อันทรงศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญา และชูเชิดชื่อจุฬาฯ นี้ไว้ ให้คงอยู่ตลอดไปชั่วดินฟ้า"คลิ๊กที่หัวข้อข้างล่างเพื่อชมภาพบรรยากาศวันรับปริญญาทั้งสองวันค่ะ
ภาพวันรับปริญญาวันที่ 12 ก.คภาพวันรับปริญญาวันที่ 13 ก.ค. อัลบั้มที่ 1ภาพวันรับปริญญาวันที่ 13 ก.ค. อัลบั้มที่ 2ดูได้ทั้ง 3 อัลบั้มนะคะไม่ต้อง register แต่บ้างทีมันจะเพี้ยนๆ ถ้าดูไม่ได้ให้รอสักพักแล้วค่อยคลิ๊กเข้าไปดูใหม่ ดูได้แน่นอนค่ะ (ขออภัยขี้เกียจสมัครที่ฝากรูปหลายที่อ่ะค่ะ)